ในละครพรหมลิขิต เราจะเห็นเหตุการณ์วันสวรรคตของสมเด็จพระอัยยิกา กรมพระเทพามาตย์ ซึ่งเป็นสมเด็จย่าของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ โดยสวรรคตในปีเถาะ ตรีศก ศักราช ๑๐๗๓
หนึ่งปีก่อนหน้านั้นมีเหตการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งที่แฟนละครชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านอาจไม่เคยรู้ นั้นคือกษัตริย์กัมพูชาหนีภัยสงครามเข้ามาขอพึ่งพระบารมีสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ หรือ พระนามอย่างเป็นทางการว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา บันทึกเอาไว้ว่า
เมื่อในปีขาล โทศกก่อนปีเถาะตรีศก “นักเสด็จ” ซึ่งเป็นเจ้ากัมพูชา ทำสงครามกับกับ “นักแก้วฟ้าจอก”
”นักแก้วฟ้าจอก“ สู้ไม่ได้ก็หนีไปขอทหารญวนให้มาช่วยตีเอาเมืองกัมพูชาไปจนได้
”นักเสด็จ“กับ”พระองค์ทอง”พาบุตรธิดาและข้าทาสจำนวนมากหนีมายังกรุงเทพมหานคร
(ในพระราชพงศาวดาร เรียกกรุงศรีอยุธยาว่ากรุงเทพมหานคร เนื่องจาก กรุงศรีอยุธยามีชื่อเต็มว่า ”กรุงเทพมหานครบวรทวาราวะดีศรีอยุทธยามหาดิลกภพนพ รัตนราชธานีบุรีรมยอุดมมหาสถาน“ ซึ่งชื่อ กรุงเทพมหานครในปัจจุบันก็นำมาจากชื่อเต็มของกรุงศรีอยุธยานั้นเอง)
”นักเสด็จ“กับ”พระองค์ทอง”พาบุตรธิดาและข้าทาสจำนวนมากหนีมายังกรุงเทพมหานคร(กรุงศรีอยุธยา) เพื่อขอพึ่งพระบารมีสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ
สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ทรงมีพระเมตตาพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคและบ้านเรือนให้อยู่ในตำบลใกล้วัดค้างคาว กรุงเทพมหานคร(กรุงศรีอยุธยา)
หลังจากนั้น ทรงโปรดให้มหาดไทยและกลาโหมเกณฑ์ทหารสองหมื่นเศษ พร้อมช้าง 300 ม้า 400 เศษ รวมทั้งศัสตราวุธต่างๆ มอบให้“นักเสด็จ”ไปตีกัมพูชากลับคืนมา
โดยให้พระพิชัยรณฤทธิ์เป็นทัพหน้า และให้พระยาโกษาธิบดีจีน (บิดาแม่หญิงแพรจีนในละคร) เป็นแม่ทัพเรือ คุมกำลังทหารหนึ่งหมื่น เรือรบ 100 เศษ และสรรพวุธต่างๆ
โดยทัพบกเคลื่อนพลไปทางเสียมราบ ทัพเรือไปทางพุทไธมาศ
เมื่อเกิดตะลุมบอน เรือรบญวนเข้ามาช่วยเขมรฝ่าย ”นักแก้วฟ้าจอก“ เป็นอันมาก ทำให้พระยาโกษาธิบดีจีน ซึ่งเป็นแม่ทัพเรือ แต่ไม่มีความชำนาญในการรบ และยังเป็นคนขลาดกลัวและย่อท้อต่อสงคราม ทิ้งกองทัพหนีไป ทำให้กองทัพเรืออยุธยาโดนฝ่ายญวนตีแตก
ในขณะที่ พระพิชัยรณฤทธิ์ ซึ่งเป็นทัพหน้า รบชนะทุกสมรภูมิ ได้ไปสมทบกับ เจ้าพระยาจักรี ซึ่งมีชัยทุกสมรภูมิเช่นกัน ได้พากันตั้งค่ายล้อมเมืองกัมพูชาได้สำเร็จ แล้วแต่งหนังสือไปให้“นักแก้วฟ้า”ยอมจำนน ซึ่ง“นักแก้วฟ้า”ได้ทราบถึงกิตติศักดิ์ของกองทัพบกอยุธยา อันประกอบด้วยทัพหน้าและทัพหลวงที่รบชนะมาทุกสมรภูมิ ทำให้“นักแก้วฟ้า”ตัดสินใจยอมแพ้ในที่สุด
เสร็จสงคราม สมเด็จพระเจ้าท้ายสระทรงพิโรธพระยาโกษาธิบดีจีนอย่างมาก
เรื่องนี้จบลงแบบ Happy Ending กล่าวคือ “นักเสด็จ” ได้ครองเมืองกัมพูชาอย่างผาสุข
แฟนละครพรหมลิขิตชาวกัมพูชา คงไม่รู้ว่า ไทยเป็นมิตรช่วยชาวกัมพูชารบกู้บ้านเมืองมาตั้งแต่โบราณแล้ว
มองไทยในแง่ดีบ้าง อย่าตั้งแง่เป็นศัตรูกันอีกเลย บ้านเมืองก็อยู่ติดกัน
อัษฎางค์ ยมนาค