ไอซ์ บางบอน ผู้ที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดตามมาตรา 112 ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์
และอ้างว่าตนเองและ”พรรค….พวก“ถูกกล่าวหาว่าเป็น พวกล้มเจ้า
ไอซ์ บางบอน และ “พรรค….พวก” มักพูดเหมือนๆ กันว่า ในประวัติศาสตร์ มีแต่เจ้าและทหารที่สามารถล้มเจ้าได้ ประชาชนอย่างตนจะเอาอะไรไปล้มเจ้า
จีน คือมหาอำนาจของโลกยุคโบราณ และรัสเซีย คือมหาอำนาจเมื่อศตวรรษที่ผ่านมา โดยสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นประมุขของชาติมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสอง ถูกปฏิวัติโค่นล้มโดยกองทัพประชาชน
จีน
ดร.ซุน ยัตเซ็น เป็นผู้นำการปฏิวัติประชาชน ใน ค.ศ. 1894 โดยเริ่มก่อตั้งคณะปฏิวัติซิ่งจงฮุ่ย ซึ่งเป็นการริเริ่มก่อตั้งประเทศที่ปกครองแบบสาธารณรัฐขึ้น ดร.ซุน ยัตเซ็น คือผู้นำมวลชนลุกฮือขึ้นก่อการปฏิวัติที่เมืองกว่างโจว และจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐ
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1912 หลงยวี่ไทเฮา
พระราชมารดาเลี้ยงในฮ่องเต้เสวียนถ่งหรือปูยี ประกาศการสละราชสมบัติของฮ่องเต้อย่างเป็นทางการ
ปิดฉากสถาบันพระมหากษัตริย์ของจีนที่มีอายุหลายพันปีไปตลอดกาล ด้วยฝีมือของกองทัพประชาชน ”ไม่ใช่ เจ้าล้มเจ้าอย่างที่ไอซ์มโนและโกหกไปเอง“
รัสเซีย
คณะปฏิวัติในรัสเซีย เป็นผู้ใช้แรงงานและราษฎรระดับรากหญ้าที่เริ่มต้นด้วยการเดินขบวนแสดงพลัง
ด้วยอ้างเหตุผลหลัก 2 ประการ คือ 1. การต่อต้านสงครามกับเยอรมนี และ 2. ความอดอยากเพราะขาดแคลนอาหาร
ประชาชนลุกฮือจนกลายเป็นจลาจลทั่วเมืองจนรัฐบาลรับมือไม่ไหว
สภาได้แนะนำให้พระเจ้าซาร์ทรงหาทางออกด้วยการสละราชสมบัติทันทีซึ่งอาจจะช่วยให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ได้
ในที่สุดทรงการตัดสินพระราชหฤทัยการสละราชสมบัติ หลังจากนั้น ครอบครัวของพระองค์ถูกควบคุมตัวไปไซบีเรียตะวันออก และถูกสังหารหมู่ล้างตระกูลที่นั้น
ปิดฉากราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดราชวงศ์หนึ่งของยุโรปไปตลอดกาล ด้วยฝีมือของกองทัพประชาชน ”ไม่ใช่ เจ้าล้มเจ้าอย่างที่ไอซ์มโนและโกหกไปเอง“
ข้ออ้างว่า “ให้สละราชสมบัติเพื่อช่วยให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ได้” ในประวัติศาสตร์รัสเซียฟังคุ้นๆ ไหมว่ามีใครในเมืองไทย ที่พูดซ้ำๆ ว่า ”ปฏิรูปสถาบันเพื่อให้สถาบันฯ คงอยู่“
หยุดโกหกตัวเองและสาวก ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนและหลอกลวง ซึ่งเป็นการหลอกลวงแม้กระทั่งตัวเองและสาวกผู้ศรัทธาตัวเอง
ไอซ์ บางบอน ลอยหน้าลอยตาพูดแก้ตัวกับศาลเพื่อให้พ้นผิดว่า ตนเองมีความศรัทธาต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทั้งที่คนกลุ่มนี้ มักเรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย โดยไม่เคยมีคำว่า อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
แต่นอกศาล ไอซ์ และพรรค…พวก มักให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีอยู่เสมอ
เช่นคลิปนี้ ไอซ์ พูดว่า การล้มเจ้าเกิดจาก เจ้าล้มเจ้า หรือ จากรัฐประหาร เท่านั้น ประชาชนไม่มีปัญญาหรือกำลังไปล้มเจ้าได้
แล้วลอยหน้าลอยตายกตัวอย่าง ว่า ใครล้มพระเจ้าตากสิน
ซึ่งการพูดด้วยถ้อยคำแบบนี้ ย่อมเป็นการชักจูงให้สาวกคิดตามว่า เป็นรัชกาลที่ 1 ที่ล้มเจ้าหรือไม่
คำว่า “ล้มเจ้า” ตรงกับคำว่า “ปฏิวัติ”
ปฏิวัติ แปลว่า การใช้กำลังเข้ายึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เช่น เปลี่ยนจาก สมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่มีพระมหากษัตริย์ปกครอง ไปเป็น ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือสาธารณรัฐที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
แต่สิ่งที่รัชกาลที่ 1 ทำเรียกว่า รัฐประหาร
รัฐประหาร แปลว่า การใช้กำลังยึดอำนาจ และเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาลโดยฉับพลันแต่ไม่เปลี่ยนระบอบการปกครอง
ซึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เกิดการรัฐประหาร จากเจ้ากับเจ้า หรือขุนนางกับเจ้า อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเกิดการปฏิวัติ
ในประวัติศาสตร์ชาติไทย เกิดการปฏิวัติเพียงครั้งเดียว นั่นคือ การปฏิวัติ 2475 เปลี่ยนแปลงการปกครอง
ถ้าไอซ์ และพรรค…พวก ให้ร้ายรัชกาลที่ 1 หรือราชวงศ์จักรีว่า เป็นพวกล้มเจ้า เนื่องจากทำรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ก็คงต้อง ขอกราบขอพระราชทานอภัยโทษ ด้วยจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยขออนุญาตเล่าประวัติศาสตร์ว่า
เมื่อสิ้นอยุธยาแล้ว เชื้อพระวงศ์พระมหากษัตริย์แห่งอยุธยามิได้หมดไป ยังคงหลือ “กรมหมื่นเทพพิพิธ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าแขก เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ“ เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงของราชสำนักอยุธยา ซึ่งอยู่กับชุมนุมเมืองพิมาย
แต่ชุมนุมเมืองพิมาย ของกรมหมื่นเทพพิพิธ พ่ายแพ้แก่สมเด็จพระเจ้าตากสิน ขุนนางไทยเชื้อสายจีน ที่สถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่
ซึ่งตลอดรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้ใช้ความพยายามในการติดต่อค้าขายและสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจของเอเชียในขณะนั้น แต่จีนไม่เคยยอมรับว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน คือพระมหากษัตริย์ของไทย เพราะจีนถือว่ายังมี กรมหมื่นเทพพิพิธ เป็นรัชทายาทองค์จริงของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระมหากษัตริย์สยาม
ถ้าจะกล่าวหาว่า รัชกาลที่ 1 แย่งอำนาจสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก็อาจจะเป็นกรณีเดียวกับการที่สมเด็จพระเจ้าตากสิน แย่งอำนาจมาจาก กรมหมื่นเทพพิพิธ ซึ่งเป็นรัชทายาทองค์จริงของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระมหากษัตริย์อยุธยาได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และขอสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้ตลอดไป
ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นเสมอมาตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา
แต่เรื่องราวเหล่านั้น ไม่ใช่ การปฏิวัติ หรือ การล้มเจ้า เพราะเจ้า หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังคงมีอำนาจปกครองมาจนถึงปฏิวัติของคณะราษฏร เมื่อ 2475
ดูชื่อ ก็น่าจะทราบได้ชัดเจนว่า คณะราษฏร ก็คือคณะของราษฎร หรือ ประชาชน เป็นผู้ล้มเจ้า ได้สำเร็จเมื่อ 2475
และคณะราษฏรยุคสามนิ้วในปัจจุบัน ที่พรรค..พวก สนับสนุนนั้น ประกาศชัดเจนว่า จะมาสานต่อภารกิจของคณะราษฏร 2475
คำว่า สานต่อภารกิจคณะราษฏรนั้น มีความหมายว่าอะไร ?