”ขอความเท่าเทียมให้กับพิธาด้วยเถิด“
คดีธนาธร ศาลยังตัดสินว่าผิดจริง
ถ้าคดีพิธา ศาลยกฟ้อง
ก็เท่ากับ เกิดความไม่เท่าเทียมและเป็นความเหลื่อมล้ำ
ขอให้พิธาได้รับความเท่าเทียมเหมือนธนาธรด้วยเถิด
ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่จะดีใจอยู่ฝ่ายเดียว
ยังมีแกนนำฝ่ายเดียวกันกับพิธาอีกหลายคน ที่จะดีใจยิ่งกว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยม
เนื่องจากแกนนำฝ่ายเดียวกัน อยากใช้พิธาเป็นเหยื่อ ใจจะขาด
ใช้เอาไปหากินได้ต่อว่า ถูกรัฐกลั่นแกล้ง
เอาไปเรียกคะแนนนิยมให้กับฝ่ายตนต่อไปได้อีกมากโข
งานนี้ไม่ว่าศาลจะตัดสินยังไง ฝ่ายส้ม ”มีแต่ได้กับได้“
ชนะคดีเป็นผู้บริสุทธิ์ แพ้คดีก็เป็นรัฐบุรุษสีส้มที่ตายไปในทางการเมือง แต่พรรคพวกเอาไปหากินได้ต่อ เย้
ปิยบุตรประกาศกร้าว…
หากผลการตัดสินออกมาไม่เป็นคุณกับ พิธา และพรรคก้าวไกล
พิธา ชัยธวัช พรรคก้าวไกล ก็จะกลายเป็น “มรณสักขี” เหมือนดังเช่นพรรคอนาคตใหม่
ยิ่งได้รับความนิยม ยิ่งได้การสนับสนุน และเมื่อการเลือกตั้งครั้งถัดไปมาถึง ก็ง่ายมากที่พลังทางการเมืองกลุ่มก้อนนี้ จะได้เกิน 250 เสียง
…………………………………………………………………………
ซึ่งคำประกาศกร้าวนี้เป็นอาการดิ้น เพื่อกดดันให้ศาลหรือรัฐก็ตามกลัว ไม่กล้าตัดสินคดีความไปตามกฎหมายหรือตามข้อเท็จจริง
ศาลหรือรัฐ ต้องไม่หลงกล หวาดกลัว กับคำขู่ ข้างๆ คูๆ ของคนที่หากินกับเรื่องแบบนี้
“ถ้าตัดสินคดีไปตามข้อเท็จจริงตามกฎหมายแล้วพวกส้มจะโตขึ้น ก็ให้มันรู้ไปว่า คนไทยจะเห็นดำเป็นขาว เห็นผิดเป็นชอบ เห็นคนชั่วเป็นคนดี”
“ถ้าประเทศชาติจะฉิบหายเพราะคนชั่ว ลูกหลานในอนาคตจะได้เรียนรู้ว่าใครสร้างความฉิบหายนี้”
ดีกว่าประเทศชาติและระบบตุลาการพังพินาศด้วยน้ำมือผู้พิพากษาผู้รักษาการความยุติธรรม
…………………………………………………………………………
อัษฎางค์ ยมนาค