คนไทยผู้จงรักภักดีอย่าได้ประมาทกับสงครามการเมืองกับส้มสามนิ้ว
ถ้าเราเรียนรู้ประวัติศาสตร์จะพบว่า จักรวรรดิจีนอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เคยล่มสลายลงด้วยชนเผ่าซึ่งชาวจีนดูถูกว่า เป็นเพียงชนเผ่าป่าเถื่อนนอกด่าน
ถึง 2 ครั้ง จากมองโกลและแมนจู รวมทั้งในตอนสุดท้ายจักรวรรดิจีนอันยิ่งใหญ่ก็ถูกปิดฉากลงด้วยกองทัพชาวนา (ที่พวกขบถส้มสามนิ้วมักพูดว่าประชาชนไม่มีอาวุธที่จะล้มเจ้าได้)
เพราะฉะนั้นระวัง ราชอาณาจักรไทย ที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อาจล่มสลายได้ด้วยขบถส้มสามนิ้ว
เมื่อวันก่อนมีข่าว นักยุทธศาสตร์ผู้บริหารความเสี่ยง วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการบินของนักบินของสายการบินไทย ทำให้ผมนึกถึงประวัติศาสตร์ช่วงก่อนที่ราชวงศ์หมิงจะล่มสลายด้วยฝีมือชาวแมนจูซึ่งเป็นเพียงชนเผ่านอกด่าน ที่เป็นบันทึกถึงสุดยอดขุนศึกที่รักชาติยิ่งชีพ และชนะศึกใหญ่มาทุกครั้ง แต่ต้องถูกสั่งประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยม เพียงเพราะคำวิพากษ์วิจารณ์ของขันที
ทำให้เห็นภาพเปรียบเทียบว่า ถ้ามีคนอย่างนักยุทธศาสตร์ผู้บริหารความเสี่ยง ซึ่งมีพฤติกรรมคล้ายกับชนเผ่าขบถส้มสามนิ้วทั้งหลาย ที่มักชี้ขาวเป็นดำ ชี้คนดีเป็นคนเลว ย่อมอาจทำให้คนดีมีความสามารถถูกจบชีวิตจนประเทศชาติอ่อนแอ จนทำให้ขบถส้มสามกีบปฏิวัติประเทศด้วยคำว่าปฏิรูปสำเร็จในที่สุด
ประวัติศาสตร์จีนช่วงสุดท้ายที่ทำให้ราชวงศ์จีนแท้ราชวงศ์สุดท้ายล่มสลายบันทึกไว้ว่า
หยวน ชงหวน ซึ่งเป็นขุนศึกคนสำคัญของราชวงศ์หมิง ผู้ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้รักชาติ และรบชนะศึกสำคัญหลายครั้ง
จนกระทั่งสงครามครั้งสุดท้าย เกิดไปหลงกลศึก ถูกกองทัพชนเผ่าแมนจูหลอกให้แพ้ศึกอย่างง่ายดายจนผิดสังเกต
ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของกองทัพแมนจูคือ ทำให้ฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงของจีนหลงเข้าใจว่า แม่ทัพหยวน ชงหวนจงใจแพ้สงครามเพราะเอาใจออกห่าง
ประกอบกับมีขันทีนักวิจารณ์ผู้ชอบบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า การที่หยวน ชงหวน แพ้ศึกเพราะเขาตั้งใจ เนื่องจากไม่มีความจงรักภักดี
ทำให้ฮ่องเต้ฉงเจิน หลงเชื่อคำยุยงของขันทีจนสั่งประหาร หยวน ชงหวน ด้วยวิธีที่โหดร้ายป่าเถื่อน ด้วยการสั่งให้หั่นเนื้อของหยวน ชงหวน ที่ละชิ้น จนกว่าจะครบหนึ่งพันชิ้น ซึ่งถ้าเขาอดทนไม่ตายก่อนก็จะเว้นโทษตาย แต่หยวน ชงหวน ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งซึ่งไม่สามารถทนพิษบาดแพ้ได้ และตายอย่างทรมานในที่สุด เพราะคำวิพากษ์วิจารณ์ของขันทีที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องการรบเลย
ถ้าใครเคยชมหนังชุดฮ่องกงเรื่องดังยุค 80 เรื่องศึกสายเลือด ที่มีตัวละครหลักที่แสดงโดยเดวิดเจียง ที่รับบทเป็น “หยวนยั่วเฟง” ถูกแต่งขึ้นให้ หยวนยั่วเฟง เป็นบุตรของขุนพลหยวน ชงหวน นั้นเอง
ประวัติศาสตร์ตอนนี้ทำให้นึกถึงนักวิพากษ์วิจารณ์ที่มีพฤติกรรมเหมือนพวกขบถส้มสามนิ้วทั้งหลาย ที่ชอบเห็นขาวเป็นดำ เห็นผิดเป็นชอบ ที่จะทำให้คนดีต้องตาย และทำให้คนร้ายได้ขึ้นมาเป็นใหญ่
หลังจาก หยวน ชงหวน ตายไป ราชวงศ์หมิงล่มสลาย ราชวงศ์แมนจูซึ่งเป็นชนเผานอกด้านเข้ามาปกครองนับร้อยปี ฮ่องเต้เฉียน หลง ซึ่งเป็นจักรวรรดิแมนจู ก็ได้ประกาศให้จักรวรรดิจีนยกเลิกการประนามหยวน ชงหวน ว่าขายชาติ และประกาศสรรเสริญให้ หยวน ชงหวน เป็นวีรบุรุษ
แต่หยวน ชงหวน ก็ตายไปพร้อมการล่มสลายของจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ของชาวจีนนานนับร้อยปีแล้ว
ดังนั้น คนไทยโปรดระวังคนอย่าง นักยุทธศาสตร์ผู้บริหารความเสี่ยง คนที่วิจารณ์นักบินการบินไทย ทั้งที่ตนเองไม่มีความรู้ห่านอะไรเกี่ยวกับการบินเลย
รวมทั้งระวังพวกขบถส้มสามนิ้วที่ชอบบิดเบือนให้ร้ายคนดี ทำดำให้เป็นขาว สนับสนุนคนชั่วและวิพากษ์วิจารณ์คนดีให้เป็นคนร้าย
ระวังคนชอบวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องที่ตนเองไม่มีความรู้จริง หรือมีความรู้จริงแต่บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ บั่นทอนคนดี เพื่อให้คนของพวกขบถส้มสามนิ้วคนนอกด้านเข้ามาปกครองในที่สุด
เหมือนหยวน ชงหวน ที่สร้างความดีความชอบเอาชนะศึกใหญ่มาทุกครั้ง แต่ต้องถูกสั่งประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยม เพียงเพราะคำวิพากษ์วิจารณ์ของขันทีที่ไม่รู้ห่านอะไรกับเรื่องการรบเลย
อัษฎางค์ ยมนาค