พิธา ออกมาแก้ตัวแล้วว่า
(1) “คุณยายเคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึงจริง”
เดี๋ยวก่อนนะ คำว่า ”บ้านเก่าคุณยาย“ ในตอนแรก กับคำแก้ตัวว่า “คุณยายเคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึงจริง” มันต่างกันนะ
เพราะคำว่า ”บ้านเก่าคุณยาย“ มันแปลว่า คุณยายเป็นเจ้าของบ้าน
ส่วนคำว่า “คุณยายเคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึง” มันแปลว่า คุณยายเป็นผู้อาศัย และเคยไปอาศัยอยู่พักนึง“
ที่นี้ เราย้อนไปดูประวัติศาสตร์กัน
คุณเกษม อภัยวงศ์เป็นบุตรชายคนโต ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศวร (ชุ่ม อภัยวงศ์) กับหม่อมละม้าย (เป็นภรรยาคนที่ 23- ขออภัยล่วงหน้าถ้าเข้าใจไม่ผิด)
ตอนคุณเกษม อภัยวงศ์ อายุ 6 ขวบ ได้ย้ายกลับมาเมืองไทยตามเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในปีพ.ศ. 2450 และอาศัยอยู่ในประเทศไทย จนบั้นปลายของชีวิต
คุณยายของพิธาคือ คุณอนุศรี อนุรัฐนฤผดง ซึ่งเคยสมรสกับ คุณเกษม อภัยวงศ์ จริง แต่หย่าร้างกันในภายหลัง
และได้สมรสใหม่ โดยมีบุตรสาว ซึ่งเป็นคุณแม่ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พิธาบอกว่า “คุณยายอนุศรี เคยแต่งงานกับคุณเกษม อภัยวงศ์ และคุณยายเคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึงจริง”
คำถามคือ ไปอยู่ตอนไหน?
ในเมื่อ คุณเกษม ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ !
(2) พิธาบอกว่า “ผมไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นลูกหลาน อภัยวงศ์”
ถูกต้องว่า พิธาผมไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นลูกหลาน อภัยวงศ์
แต่การโพสต์ภาพจวนของตระกูลอภัยวงศ์ โดยที่อาจไม่รู้ว่าเป็นจวนของตระกูลอภัยวงศ์ จนนำมาซึ่งอาการโป๊ะแตก
คำที่เขียนไว้ใต้ภาพว่า “บ้านเก่าคุณยาย” มีความหมายที่บ่งบอกถึงความเป็น “เจ้าของบ้าน”
ประโยคที่พิมพ์ไว้ใต้ภาพว่า คุณยายเคยอยู่บ้านหลังนั้นเมื่อเกือบศตวรรษที่ผ่านมา ตีความได้ว่า อยู่บ้านนั้นในราวหลังจากปี พ.ศ.2458 (พิธาโพสต์ไว้เมื่อ พ.ศ.2558)
แต่คุณเกษม อดีตคู่สมรส ย้ายกลับมาเมืองไทยเมื่อ พ.ศ.2450
คำถามคือ คุณยายอยู่ที่จวนหรือบ้านหลังนั้นตอนไหน ? เอาให้เคลียร์
(3) พิธาบอกว่า “ผมโพสต์รูปเมื่อปี 2558 ด้วยความระลึกถึงคุณยาย เมื่อตอนไปเที่ยวพระตะบอง และอ้างอิงตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่และผู้นำชม ณ ขณะนั้น“
เท่ากับโยนบาปให้ผู้เฒ่าผู้แก่ ว่าหลอกพิธาว่าคุณยายอยู่บ้านนั้น หรือไม่!
เพราะตระกูลอภัยวงศ์ ที่เป็นเจ้าของบ้าน ย้ายออกมาจากพระตะบองตั้งแต่ก่อนที่จะได้อยู่ในบ้านหลังนั้น
คุณยายพิธา เป็นสะใภ้ ทำไมได้อยู่ในบ้านหลังนั้น ทั้งที่อดีตสามีเองยังย้ายกลับมาเมืองไทยตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
(4) พิธา อ้างว่า กลายเป็นประเด็นการเมือง จนถึงขั้นกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คืออะไรก่อน
คำว่า “พิธามีเชื้อสายเขมร หรือเป็นลูกครึ่งเขมร” คือคำกระแนะกระแหน จากการจับโป๊ะ
ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวคิดว่า พิธามีเชื้อสายเขมร หรือเป็นลูกครึ่งเขมร อย่าอ่อนหัดจนทำให้ดูไม่เหมาะสมกับความที่เคยอดีตหัวหน้าพรรคและตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไปไกลๆ ในปัจจุบัน
ที่สำคัญ เรื่องจับโป๊ะนี้ “ไม่ได้เป็นประเด็นการเมือง“ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมืองเลย แต่มันคือเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวของพิธาล้วนๆ ที่พูดจากสับสน เลื่อนลอยเหมือนคนที่ไม่ปกติ ด้วยการโพสต์ภาพจวนเจ้าเมืองพระตะบองแล้วอ้างว่า ”เป็นบ้านเก่าคุณยาย“
เรื่องบ้านเก่าคุณยาย จะเป็นประเด็นทางการเมืองและกระทบกับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร
กลับไปตั้งตัวและหาข้อแก้ตัวมาใหม่
อัษฎางค์ ยมนาค
ขออนุญาตตั้งข้อสังเกตแทนพี่น้องประชาชนที่ยังสงสัย