”เหนือกฎหมาย“
เอกสารข่าวระบุว่า
ย้อนไปเมื่อ 23 ม.ค. 2549 ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดในกลุ่มบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จำกัด (พีทีอี) หรือ กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ได้เงินมากว่า 73,271 ล้านบาท
ทำให้ถูกวิจารณ์แรงว่าใช้อำนาจเอื้อต่อผลประโยชน์ของครอบครัว จน“ทักษิณ”ทนกระแสกดดันไม่ไหว ประกาศยุบสภาในวันที่ 24 ก.พ. 2549
19 ก.ย. 2549 เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ
หลังรัฐประหารในครั้งนั้น ทักษิณลี้ภัยไปอยู่ในอังกฤษนาน 1 ปี 5 เดือน
พ.ศ. 2551 ทักษิณกลับไทยและเข้าไปมอบตัวสู้คดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีตกเป็นจำเลยคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ร่วมกับภริยา
แต่แล้ว ทั้งทักษิณและภรรยาก็ไม่ได้ไปรายงานตัวต่อศาล ศาลจึงตัดสินให้จำคุก ทักษิณ เป็นระยะเวลา 2 ปี
หลังจากลี้ภัยอยู่นาน 15 ปี สุดท้ายทักษิณได้กลับบ้าน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.นายทักษิณเดินทางเหยียบแผ่นดินไทย ด้วยเครื่องบิน Gulf stream รุ่น G650-ER เครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวทักษิณ ออกจากสนามบินดอนเมือง เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลฎีกาฯ บังคับโทษ 3 คดี นับโทษรวมจำคุก 8 ปี และราชทัณฑ์ได้ตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทันที
ต่อมา กรมราชทัณฑ์ ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจกลางดึกที่ผ่านมา เมื่อเวลา 00.20 น. ภายหลังมีอาการแน่นหน้าอก
เอกสารข่าวจากกรมราชทัณฑ์ที่ส่งให้สื่อมวลชนเมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันนี้ (23 ส.ค.) เปิดเผยคำชี้แจงจาก รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในฐานะโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า เมื่อเวลา 23.59 น. ของวันที่ 22 ส.ค. พัศดีเวรได้รายงานว่านายทักษิณ ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แดน 7 อยู่ระหว่างการกักโรค เนื่องจากมีอาการป่วย
พยาบาลเวรเรือนจำ ได้ติดต่อขอคำแนะนำกับแพทย์ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์ได้สอบถามอาการโดยละเอียดแล้ว ตลอดจนพิจารณาจากรายงานประวัติการรักษาของผู้ป่วยพบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ
เอกสารข่าวระบุว่า เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต
เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า
หลังจากนั้น เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้รับตัวไว้เพื่อทำการบำบัดรักษา
นับตั้งแต่วันนั้นถึงก่อนเช้าวันที่ได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน ทักษิณต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาลตำรวจ เพราะมีความพร้อมทางด้านเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูง
…………………………………………………………
แต่หลังจากได้รับการพักโทษ ……..
เหตุผลเรื่องเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงที่แม้แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่มี หายไปไหน
ทำไมทักษิณออกจากโรงพยาบาลได้ทันที
ตอนยังไม่ได้พักโทษ ต้องอยู่โรงพยาบาล
แต่พอได้พักโทษ กลับบ้านได้ทันที
เรื่องป่วย เรื่องโรงพยาบาล เรื่องเครื่องมือแพทย์ที่มีศักยภาพ หายไปไหน ทำให้ประชาชนจำนวนมากสงสัยว่า เรื่องป่วยหนัก ขนาดโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีเครื่องมือแพทย์ทันสมัยจะรักษาได้นั้นเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาใช่หรือไม่?
…………………………………………………………
ขอตั้งข้อสังเกตเอาไว้ดังต่อไปนี่
1. ดีลลับ
ข้อสงสัยและคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทยในกรณีที่ทักษิณกลับไทย คือ มีดีลลับ หรือการตกลงกันในทางการประสานผลประโยชน์ที่ลงตัวระหว่างทักษิณและผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือไม่?
ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เอาอะไรมามั่นใจว่า ทักษิณจะกลับตัวกลับใจ และจะมีมาตรการใดมาคอยติดตาม ควบคุมหรือจัดการ ถ้าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามข้อตกลงนั้น
เนื่องจากการต่อรอง หรือข้อตกลงกับคนที่สังคมไทยตีตราว่าเป็นคนขี้โกงนั้น คนไทยจำนวนมากเชื่อว่าในที่สุดก็จะถูกเขาโกงอีกอยู่ดี เพราะคนขี้โกงและเห็นผลประโยชน์ส่งตัวเป็นใหญ่ ยังไงก็ต้องเห็นกับผลประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวมของคนทั้งชาติ
คนขี้โกงยังไงก็โกง
2) ต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย
การปกครองที่ไม่ยึดมั่นในกติกาและความถูกผิดตามกฎหมายจะนำพาบ้านเมืองได้อย่างไร?
สิ่งเหล่านี้สะท้อนความอ่อนแอในการรักษากฎหมายขององค์กร ผู้ปกครองและข้าราชการไทย ที่ไร้ความสามารถ ขาดความจริงใจและจริงจังในการกำจัดหรือจัดการกับการคอรัปชั่น รวมทั่งไม่สามารถใช้กฎหมายจัดการกับคนที่คอรัปชั่น
บ้านเมืองจะพัฒนาได้อย่างไร ถ้าคนที่ถูกศาลตัดสินว่าคอรัปชั่น ใช้เงินจากการคอรัปชั่นเป็นแหล่งเงินทุนในการเคลื่อนไหวทางการเมือง จนตนเองหลุดพ้นคดีหรือไม่ต้องรับโทษอย่างคนทั่วไป ได้สำเร็จ!
การปกครองไม่ว่าจะปกครองในระบอบใด ต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แม้แต่ประมุขของประเทศยังต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
พระมหากษัตริย์ไทยวางพระองค์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ยังถูกพรรคการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการหาผลประโยชน์
แล้วทักษิณเป็นใคร ทำไมทำตัวเหมือนการอยู่เหนือกฎหมาย
ที่น่าสังเกตคือ พรรคการเมืองที่ให้ร้ายว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย ไม่แตะต้องทักษิณเลย เพราะอะไร
ประเทศตะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนได้ ต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย
3. การกำจัดการคอรัปชั่นของผู้นำจีนและสิงค์โปร์ คือตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาชาติอย่างยั่งยืน
ผู้นำของจีนและสิงค์โปร์ คือตัวอย่างที่ดีที่นำพาประเทศก้าวข้ามความล้าหลังและยากจนได้ จนกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการกำจัดการคอรัปชั่น
สิงค์โปร์ ประเทศที่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่แทบจะไม่มีทรัพยากร และจีน ที่เคยเป็นประเทศมหาอำนาจมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ความยิ่งใหญ่ต้องล่มสลายไปพร้อมกับการจบลงของยุคราชวงศ์ปกครอง จนเป็นสาธารณรัฐ ก็กลายเป็นประเทศยากจนและด้อยพัฒนา
จากประเทศด้อยพัฒนา สามารถยิ่งใหญ่และมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอย่างยั้งยืนได้ ด้วยการกำจัดคอรัปชั่นอย่างจริงจัง
ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในเมืองไทย ที่ถูกพรรคเมืองพรรคหนึ่งอ้างว่าต้องแก้ด้วยการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
แท้จริงต้องปฏิรูปการเมืองและนักการเมือง ด้วยการกำจัดการคอรัปชั่นและการโกงทุกรูปแบบอย่างจริงจัง
แต่ทักษิณคือผู้นำคนสำคัญของไทย ที่ต้องลี้ภัยในต่างประเทศสิบกว่าปี เพราะการคอรัปชั่น และสามารถกลับมาอยู่บ้านได้ด้วยวิธีเดียวกัน ใช่หรือไม่
ประเทศจะพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าได้จากกระบวนแบบนี้ จริงหรือ?
ไทยคงเป็นต้นแบบประเทศแรกในโลก ที่ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจและสังคม แก้ไขได้ด้วยการทำข้อตกลงบนผลประโยชน์เมืองกับผู้นำทางการเมืองที่มีคดีคอรัปชั่นติดตัวเป็นหางว่าว โดยการข้ามบทบัญญัติทางกฎหมายทุกข้อ ลอยตัวบนปุยเมฆจากต่างประเทศกลับบ้านอย่างนุ่มนวล
4. จะกลับมายืนอยู่เบื้องหน้าเวทีการเมืองหรือไม่
เชื่อว่าคนไทยและชาวโลกต่างจับตาดูว่า ทักษิณจะกลับเข้าสู่การเมืองและเข้ามาบริหารจัดการรัฐบาลโดยไม่ต้องแอบอยู่หลังฉากเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่?
สัญญาณแรกได้ปรากฏออกมาแล้ว หลังจากกลับถึงบ้านสดๆ ร้อนๆ ผู้นำกัมพูชาก็เข้าพบในแทบจะทันที
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอย่างกว้างขวางว่า ไทยและกัมพูชามีปัญหาเรื่องผลประโยชน์บนพื้นที่ทับซ้อนในน่านน้ำที่ยังตกลงกันไม่ได้
และคนไทยจำนวนมากเชื่อว่า ผู้นำทั้งสองคือคีย์แมนสำคัญในการจัดการกับปัญหานี้ ซึ่งไทยจะไว้ใจอะไรได้กับทักษิณ ว่าเขาจะรักษาผลประโยชน์ของชาติหรือของส่วนตัว ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาอาศัยเกมการเมืองรักษาผลประโยชน์ ด้วยการสร้างภาพว่ารักษาเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม
เพราะฉะนั้นคำตอบว่า เขาจะกลับมาเล่นบทแสดงนำโดยไม่ต้องแอบอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทุกคนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
5. จะจับมือกับก้าวไกล หรือไม่
เรื่องที่ผู้คนในความสนใจมากที่สุดคือ ทักษิณจะวางตัวอยู่ข้างเดียวกับก้าวไกลหรือไม่
เป็นที่ทราบกันดีว่า พรรคก้าวไกลแพ้โหวตนายกรัฐมนตรีเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสภา โดยวุฒิสมาชิกได้หันไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคก้าวไกลกลับไม่มีปฏิกริยาใดๆ รวมทั้งผู้นำที่แท้จริงของก้าวไกลยังแอบไปพบทักษิณอย่างเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม อำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีของวุฒสมาชิก (สว.) กำลังจะหมดลง
ดีลลับที่อาจจะมี ระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองกับทักษิณ และเพื่อไทยกับก้าวไกล จะลงเอยอย่างไร หรือจะกลายเป็นเกมชิงอำนาจ เพื่อพลิกขั้วการเมืองอีกหรือไม่ เป็นคำถามที่อยู่ในใจทั้งคนไทยและชาวโลกที่เฝ้าจับตาชมคำถามสุดท้าย
เราจะไว้ใจคนโกงได้ด้วยอะไร
คนที่เห็นผลประโยชน์ของตนเองเป็นใหญ่ จะจบดีลด้วยผลประโยชน์ของตนเองเป็นใหญ่เสมอ
คราวที่ผ่านมา ดีลจบลงได้ เพราะผลประโยชน์ของตนเองได้รับการตอบสนอง
ในคราวต่อไปก็เช่นกัน ถ้าผลประโยชน์ของตนเองได้รับการตอบสนอง ดีลนั้นก็จบ
เพียงแต่ว่า เป็นดีลกับใครหรือฝ่ายไหนเท่านั้น
ดีลกับผู้ใหญ่ แล้วทักษิณได้ประโยชน์ก็จบ
ดีลกับก้าวไกล แล้วทักษิณได้ประโยชน์ก็จบเช่นกัน
ประเทศชาติจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย เพราะกฎหมายคือข้อตกลงของสังคม ที่จะสร้างความเท่าเทียมกันและความมั่นคงปลอดภัยให้กับสังคม
อัษฎางค์ ยมนาค