ฟิลิปปินส์ เป็นเมืองขึ้น-พูดอังกฤษ ต้องก้าวไกล
ช่วงนี้ข่าวกะเทยไทย-ฟิลิปปินส์ตีกันกำลังดัง ขอถือโอกาสโหนกระแส เอาฟิลิปปินส์มาเข้าเรื่อง เป็นอาณานิคม(อย่างฟิลิปปินส์) ดีกว่าเป็นเอกราช(อย่างไทย) จริงมั้ย !
ผมอยู่ที่ซิดนีย์ ก็มีเพื่อนฟิลิปปินส์หลายคนเหมือนกัน เพื่อนสนิทของลูกก็เป็นฟิลิปปินส์ จริงๆ คนฟิลิปปินส์นิสัยดี รักดนตรีและเสียงเพลง สนุกสนาน คล้ายๆ คนไทยทั้งหน้าตาและอุปนิสัย เรื่องตีกันก็อย่าไปเหมาว่าคนฟิลิปปินส์เป็นคนไม่ดี
ผมเคยเจอน้องพนักงานทำความสะอาดในที่ทำงานของผมที่ซิดนีย์ เขาบอกว่าเรียนหมออยู่ที่ฟิลิปปินส์มา 2-3 ปี เรียนไม่จบเพราะหมดเงิน เลยมาเสี่ยงโชคที่ออสเตรเลียแล้วก็มาได้งานทำความสะอาดที่ซิดนีย์ ซึ่งฟังแล้วผมตกใจว่านักเรียนแพทย์กับงานทำความสะอาดมันคนละโลก เกิดอะไรขึ้นที่ฟิลิปปินส์ เหมือนสมัยที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยก็เคยเจอแขกขายถั่วคุยว่าจบปริญญาโทจากอินเดีย สมัยนั้นผมก็ไม่เชื่อคิดว่าเขาพูดเลอะเทอะ
น้องๆ สามนิ้วถูกเสี้ยมให้ไม่ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ไม่ภูมิใจในความเป็นไทย และมองเห็นอะไรที่เป็นไทยเป็นปัญหาไปหมดเสียทุกอย่าง
เช่น ไม่ภูมิใจในเรื่องพระปรีชาสามารถและพระวิริยะอุตสาหะของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทำให้ไทยไม่เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งชาติไทยใด
แล้วก็พูดต่อๆ กันว่า ถ้าไทยตกเป็นอาณานิคมของชาติฝรั่งคงจะดี เพราะฝรั่งคงวางรากฐานการพัฒนาชาติทิ้งไว้ให้ รวมทั้งคนไทยคงเก่งภาษาอังกฤษและประเทศคงจะเจริญก้าวไกลกว่านี้
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์การตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกมายาวนานมาที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
โดยฟิลิปปินส์อยู่ใต้การปกครองของสเปนในฐานะอาณานิคมของสเปนใหม่ (New Spain) นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1565 (พ.ศ. 2108) ถึงปี ค.ศ. 1821 (พ.ศ. 2364)
และหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมือไปอยู่ในฐานะ
รัฐในอารักขาของสหรัฐอเมริกา
สเปนคือมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกโบราณ ส่วนสหรัฐอเมริกาคือมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกปัจจุบัน
ถ้ายึดหลักตามที่น้องๆ สามนิ้วโดนล้างสมองมา ฟิลิปปินส์ก็ตกถังข้าวสารชั้นดี โดยตกเป็นอาณานิคมของชาติมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกทั้ง 2 ยุค และนั่นย่อมต้องทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ล้ำหน้าประเทศไทยและประเทศใดๆ แน่นอน
ย้อนกลับไปหลังจากฟิลิปปินส์เป็นเอกราช ฟิลิปปินส์ในช่วงยุค 1950 – 1960 ฟิลิปปินส์เคยเป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาอยู่หัวแถวของเอเชียมาก่อน โดยเป็นรองเพียงแค่ญี่ปุ่นเท่านั้น
ในยุคสมัยหนึ่งราว 50 -60 ปีที่แล้วครอบครัวของคนไทยที่มีฐานะดีมากส่วนใหญ่ที่มักส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ หากไม่ใช่ที่ยุโรป ก็ต้องอเมริกา ส่วนที่มีฐานะรองลงมาก็จะมีฟิลิปปินส์เป็นตัวเลือก
ถ้าใครคิดภาพไม่ออก ก็ให้นึกถึงสิงคโปร์ในปัจจุบัน ฟิลิปปินส์เมื่อ 50-60 ปีก่อนก็คือสิงค์โปร์นั่นเอง ซึ่งก็ที่ผู้ปกครองชาวไทยที่มีกำลังส่งลูกไปอเมริกา ยุโรปหรือออสเตรเลียไม่ไหว ก็ส่งลูกหลานไปเรียนที่สิงคโปร์แทน
แล้วฟิลิปปินส์ อาณานิคมของ 2 มหาอำนาจอันดับ 1 ของโลก ที่น่าจะถูกประเทศมหาอำนาจเจ้าอาณานิคม ช่วยวางโครงสร้างดีๆ ในการพัฒนาประเทศเอาไว้ แถมคนแทบจะทั้งประเทศพูดภาษาอังกฤษได้….หายไปไหน?
ตรรกะของน้องๆ สามนิ้วที่ว่า ถ้าเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งประเทศไทยจะทำให้คนไทยพูดอังกฤษได้ และประเทศจะเจริญกว่านี้ อยู่ที่ไหน?
ปัจจุบัน ความเจริญของฟิลิปปินส์ตามหลังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยแทบจะหลุดลงไปอยู่ในกลุ่มประเทศรั้งท้ายในกลุ่มกัมพูชา ลาว เมียนมา เลยทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า เด็กนักเรียนในฟิลิปปินส์ต้องแบ่งที่นั่งเรียนกันในโรงเรียน ฟิลิปปินส์ต้องแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่มเพื่อสลับเวลากันเรียนแบบคาบเช้า คาบบ่าย เนื่องจากมี ห้องเรียน โต๊ะเก้าอี้ที่นั่งเรียน และจำนวนครูไม่พอจากจำนวนประชากรล้นประเทศ
จากโรงเรียนขยับขึ้นไประดับมหาวิทยาลัย ฟิลิปปินส์มี University of Santo Tomas ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1611 แต่มหาวิทยาลัยนี้ไม่ติด Top Ranking ใดๆ
ฟิลิปปินส์มีมหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียว ที่อยู่ในอันดับดีที่สุด โดยอยู่ในอันดับ 300++ ของโลก
ในขณะที่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม รวมทั้งประเทศไทย มีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพการศึกษาสูงติดระดับโลก Top 100 – 200 กันมากมายหลายแห่ง
จากข้อมูลของ Social Weather Stations (SWS) พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรชาวฟิลิปปินส์มีชีวิตความเป็นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเส้นความยากจนติดต่อกันหลายปี
เราจะพบว่ามีคนฟิลิปปินส์อพยพย้ายถิ่นหรือออกไปทำงานในต่างประเทศเยอะมาก ในแต่ละปีแรงงานฟิลิปปินส์ต่างออกไปขายแรงงานราว 2 ล้านคน และทั่วโลกมีแรงงานฟิลิปปินส์อยู่ราวๆ 8 ล้านคน
เพราะค่าจ้างในประเทศต่ำมาก เช่น อาชีพพยาบาลเงินเดือนเริ่มต้นแค่ 7,000 บาท ครู 6,500 บาท วิศวกร 12,000 บาท
(ไหนใครบอกว่าคนไทยเงินเดือนน้อย ลองเทียบกับฟิลิปปินส์ หรือลาว พม่า เขมรดูก่อนมั้ย)
คนจบหมอในฟิลิปปินส์จำนวนไม่น้อยที่หนีไปทำงานในสหรัฐอเมริกาในตำแหน่งพยาบาล เพราะการศึกษาและใบประกอบโรคศิลปะมีคุณภาพต่ำเกินกว่าจะเป็นที่ยอมรับ
ซึ่งการอพยพย้ายถิ่นหรือไปขายแรงงานนี้คือรายได้หลักของชาติที่กลับมาช่วยเศรษฐกิจของประเทศ โดยพบว่าการส่งเงินกลับประเทศของแรงงานฟิลิปปินส์มีมูลค่าเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี หรือเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
นี่คือฟิลิปปินส์ ประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นหรืออาณานิคมของชาติมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกทั้ง 2 ยุค
แล้วมองต่อไปที่พม่ามั้ย อินเดีย บังกลาเทศอีกก็ได้ นั่นไงอาณานิคมของอังกฤษถึง 200 ปี มีคนพูดภาษาอังกฤษมากกว่าคนไทยด้วย เจริญก้าวหน้ากว่าไทยหรือไม่
เวียดนาม ลาว กัมพูชา ก็อาณานิคมของฝรั่งเศส เป็นอย่างไร ล้ำหน้ากว่าไทยหรือไม่?
คนโง่หรือคนฉลาด ไม่ได้วัดกันที่ใบปริญญาหรือสถาบันการศึกษาที่สำเร็จมาหรอก
แต่วัดกันที่ การรู้จักคิด วิเคราะห์ แยกแยะ
วิชา Critical thinking คือวิชาสำคัญที่ช่วยทำให้คนรู้จักคิด ซึ่งเมืองไทยและกระทรวงศึกษา กระทรวงอุดมศึกษา มองข้ามหรือมองไม่เห็น
เห็นแต่พูดถึงวิชาการจัดการและการเงิน
ซึ่งต่อให้เรียนวิชาการเงิน การแพทย์หรือการช่างวิศวกรรม
แต่ถ้ามีความรู้ มีปริญญา แต่ไม่มีปัญญา สุดท้ายก็เป็นได้แค่สัตว์หรือเครื่องจักรที่คนมีปัญญากว่าแต่ขี้โกง จูงจมูก ได้ตลอดไปอยู่ดี
อย่าคิดว่า ครูอาจารย์ของท่าน หรือนักการเมืองที่ท่านหลงใหลจะเป็นคนมีปัญญานะ บางทีบางคนเขาก็เป็นเหมือนท่าน คือ เขามีความรู้ มีปริญญา แต่ไม่มีปัญญา เพราะเขาก็โดนต่างชาติแหกตา ล้างสมองมาให้ แหกตาและล้างสมองท่านต่อไป
นั่นแหละคือปัญหาตัวจริง ที่ทำให้ไทยไม่เจริญอย่างที่ควรจะเป็น หรือยังมีปัญหารอบด้านอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
อัษฎางค์ ยมนาค
ราษฎร