ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้งทั้งปวง แล้วอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำแลง
Timeline การต่อสู้เพื่อการปฏิรูปที่ซ่อนเร้นและประชาธิปไตยจำแลง กับ 2 ภาระกิจ Mission Impossible
เอาทักษิณกลับบ้านและปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
……………………………………………………………………
การอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำแลง
ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงจากการทุจริตคอรัปชั่น จากยุคแดงทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ จนถูกรัฐประหาร แล้วสร้างสถานการณ์เผาบ้านเมือง สู่ยุคส้มธนาธร กับวาทกรรมปฏิรูปสถาบันฯ ที่ศาลวินิจฉัยว่าเป็นการปฏิรูปอันซ้อนเร้นการล้มล้างการปกครอง
“ทักษิณ ชินวัตร ใครรักใคร”
สถานการณ์ความรุนแรงทางการเมือง และความวุ่นวายแตกแยกของสังคมมีจุดเริ่มต้นเมื่อชายชื่อทักษิณ ชินวัตรได้จัดตั้งรัฐบาล
2544 เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยแรก
2548 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง
ตลอดช่วงเวลาที่รัฐบาลทักษิณครองอำนาจ รัฐบาลของเขาถูกกล่าวหามากมาย เช่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นเผด็จการรัฐสภา มีผลประโยชน์ทับซ้อน และควบคุมสื่อ
ส่วนข้อกล่าวหาต่อตัวทักษิณ มีทั้งว่าเลี่ยงภาษี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดจนขายทรัพย์สินของบริษัทไทยให้นักลงทุนต่างชาติ กรณีขายหุ้นชินคอร์ปเป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงใหญ่โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปี 2549
วันที่ 19 กันยายน 2549 เกิดรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ ทำให้ทักษิณพ้นจากตำแหน่ง และถูกอายัดทรัพย์รวม 76,000 ล้านบาท ด้วยข้อหาว่าร่ำรวยผิดปกติขณะอยู่ในตำแหน่ง
“กฎหมายนิรโทษกรรมฯ”
กับภาระกิจ Mission Impossible เอาทักษิณกลับบ้าน
ทักษิณหนีออกไปต่างประเทศ เพราะไม่ยอมรับผิด แต่ก็ไม่กล้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเอง และยังคงเดินเกมการเมืองใต้ดินผ่านทางพรรคการเมืองนอมินีของตน จนสามารถผลักดันให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวขึ้นสู้ตำแหน่งนายกนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่ามีภาระกิจ Mission Impossible เพื่อพาทักษิณกลับบ้าน ด้วยการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมฯ เมื่อปี 2556
ซึ่งนำมาสู่การประท้วงกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดย้อนหลังไปถึงปี 2547
นอกจากนี้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนการฉ้อราษฎร์บังหลวง พ.ศ. 2557 ในโครงการรับจำนำข้าว ที่สร้างความเสียหายต่อชาติหลายแสนล้านบาท
วันที่ 23 มกราคม 2558 สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติถอดถอนยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่ง
วันที่ 19 มีนาคม 2558 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีหมายเลขดำที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์
วันที่ 25 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฯ นัดอ่านคำพิพากษา แต่ยิ่งลักษณ์หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนวันนัด
“คดีโกงชาติของพี่น้องตระกูลชิน ที่คนไทยไม่ยอมชิน”
หลังจากที่ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2544 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ทักษิณ ชินวัตร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งมีความผิดตามรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 มาตรา 295 ซึ่งเป็นความผิดที่จะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี คดีนี้ถูกเรียกว่า คดีซุกหุ้น
วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2549 ระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง ของทักษิณ ครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ ขายหุ้นของ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น ที่ครอบครองอยู่ทั้งหมด ให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จำกัด (พีทีอี)
โดยมีการแก้ไขกฎหมายที่ว่าด้วยการขายหุ้นในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ รวมทั้งการไม่ต้องเสียภาษีรายได้จากผลกำไรในการขายหุ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้กระแสการขับทักษิณออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขยายตัวออกไปในวงกว้าง
ในปี 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยให้จำคุก 5 ปีฐานแปลงสัญญาสัมปทานกิจการโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตน
“คดีโกงชาติของทักษิณ” ได้แก่
• คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก
คุณหญิงพจมานประมูลซื้อที่ดินริมถนนเทียมร่วมมิตร ใกล้กับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื้อที่ประมาณ 33 ไร่ ราคา 772 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง โดย ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร่วมลงนามยินยอมในฐานะคู่สมรส
ทักษิณ” สั่งการเลื่อนวันหยุดปีใหม่ 2546-47 โดยให้วันที่ 31 ธันวาคม 2546 ให้เป็นวันทำงาน และให้ไปหยุดวันที่ 2 มกราคม 2547 แทน เพราะถ้าหากการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จไม่ทัน 31 ธ.ค. 46 ผู้ซื้อคือคุณหญิงพจมานจะเสียค่าธรรมเนียมการโอนเพิ่มอีกหลายล้านบาท
ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี
• คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว
• คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลสหภาพพม่า
ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี
• คดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน
ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี
• คดีกล่าวหาการอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
อนุมัติการสั่งซื้อเครื่องบินแบบ A340-500 จำนวน 4 ลำ เมื่อปี 2545-2547 และปี 2554 อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบิน จำนวน 75 ลำ ไม่คุ้มค่าทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น
• คดีทุจริตการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในสมัยยิ่งลักษณ์ ที่สร้างความเสียหายต่อรัฐหลายแสนล้านบาท มีทักษิณ อยู่เบื้องหลังในการสั่งการให้มีโครงการระบายข้าวจีทูจี
“ประชาธิปไตยจำแลง”
ด้วยภาระกิจ Mission Impossible เอาทักษิณกลับบ้าน
ตลอดเวลาของการประท้วงทั้งในปี 2552 และ 2553 ทักษิณ พรรคเพื่อไทยและขบวนการคนเสื้อแดง ก่อการชุมนุมใหญ่ หวังล้มรัฐบาล
โดย ทักษิณ ชินวัตร แสดงตัวอย่างชัดเจนว่า สนับสนุนการประท้วงด้วยการ video call เข้ามาสั่งการ และให้กำลังใจผู้ประท้วงหลายครั้ง
ทั้งมีการสั่งการให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดต่างๆ หากมีการสลายการขุมนุม และยังประกาศว่าหากมีการใช้อาวุธสลายการชุมนุม จะออกมานำการชุมนุมด้วยตัวเอง
ปฏิบัติการนำนักโทษชายทักษิณกลับบ้าน และกลับเข้ามามีอำนาจโดยพ้นจากความผิดทุกประการ ด้วยการก่อความรุนแรงทุกรูปแบบ ปิดถนนปิดศูนย์เศรษฐกิจการค้า เผาบ้านเผาเมือง ซึ่งไม่เคยประสบความสำเร็จ
แต่สุดท้ายทักษิณได้กลับบ้านที่ประตูหน้าแบบเท่ๆ เพราะใคร ?
และที่เลวร้ายที่สุด คือการจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ใหม่ โดยเอาเหตุการณ์การเสื้อแดงก่อความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองตั้งแต่ปี 2553 ถึงม็อบสามกีบในปัจจุบัน เป็นการต่อสู้เพื่อปฏิรูปสถาบันฯ และเพื่อประชาธิปไตย
เอาคนผิดที่ก่อความวุ่นวายเป็นวีรชน ยกย่องทักษิณ ธนาธรให้กลายเป็นผู้นำประชาธิปไตย
เอาผู้รักษากฏหมาย รักษาบ้านเมืองตั้งแต่ อภิสิทธิ์และสุเทพฯ กปปส พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ถึงรัฐบาลลุงตู่“ มาเป็นแพะรับบาปแทนตนเอง
“ธนาธร ผู้มาสารต่อ Mission Impossible “
การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำแลงกับ 2 ภาระกิจ Mission Impossible เอาทักษิณกลับบ้าน และและข้ออ้างการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เริ่มจากยกเลิก ม.112
ในที่สุดถูกสานต่อนักการเมืองมหาเศรษฐีหน้าใหม่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่
โดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งปัจจุบันคือ พรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า คือผู้เล่นตัวใหม่ใน Mission Impossible เอาทักษิณกลับบ้านและและข้ออ้างการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เริ่มจากยกเลิก ม.112 กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำแลง
ธนาธร ลั่นคืนความเป็นธรรมให้’ทักษิณ’พากลับบ้านรื้อคดีใหม่
วันที่ 3 มีนาคม 2562 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์ ออนไลน์ เพื่อเป็นการโชว์วิสัยทัศน์สร้างประเทศให้เป็นประชาธิปไตย โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ นายธนาธรเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายทักษิณ ชินวัตร
“คดีคุณทักษิณ มันชัดเจนว่าคดีอาญาที่ฟ้องคุณทักษิณทำขึ้นในรัฐบาลทหาร เราจึงขอเสนอว่า เราต้องคืนความยุติธรรมให้เขา เอาทักษิณกลับมา”
“ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้งทั้งปวง”
หลังจากปฏิการ 2 ภาระกิจ Mission Impossible ที่ยังไม่เคยประสบไม่สำเร็จ เมื่อธนาธน พรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ลงมาเล่นก็เพิ่มดีกรีความร้อนแรงให้มากขึ้นด้วยการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแพะรับบาปจากความผิดทั้งปวงที่นักการเมืองเป็นผู้กระทำ โดยกล่าวหาว่ามีพระมหากษัตริย์อยู่เบื้องหลังและเป็นตัวถ่วงในการพัฒนาชาติ
ด้วยการปลุกระดมให้ผู้คนและเยาวชนเดินขบวนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกกฎหมายมาตรา 6 และมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์จากความขัดแย้งกับการเมืองและสังคม ด้วยการอ้างคำว่า “ปฏิรูป” ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการปฏิรูปที่ซ่อนเร้นความพยายามในการล้มล้างการปกครอง อันเป็นความผิดฐานกบฏ
ซึ่งมีหลักฐานอันเป็นที่ประจักษ์มากมายทั้งในโลกจริง โลกออนไลน์และโซเชี่ยลมีเดีย ว่ากลุ่มคนที่สังคมเรียกว่าขบวนการคนเสื้อแดงและสามกีบ มีความต้องการที่จะบันทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ
”การปฏิรูปที่ซ่อนเร้น” และ”ประชาธิปไตยจำแลง”
ภาระกิจ Mission Impossible ที่เริ่มต้นจากทักษิณ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง และถูกสานต่อโดยธนาธร พรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าที่จะพาทักษิณกลับบ้าน และข้ออ้างการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เริ่มจากยกเลิก ม.112
เป็นกระบวนการ”การปฏิรูปที่ซ่อนเร้น” และ”ประชาธิปไตยจำแลง”
ที่มีเยาวชนคนหนุ่มสาวและผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอีกมากมายหลงกลกับการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้ง สร้างข้อมูลบิดเบือนเพื่อบันทอนและทำลายความน่าเชื่อถือต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ด้วยการเรียกร้องประชาธิปไตยและปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่”ซ้อนเร้นและจำแลง”
หนึ่งในผู้นำของคนรุ่นใหม่ที่หลงกลนี้คือไอติม หลานชายอภิสิทธิ์ น้าชายที่เป็นทั้ง ผู้ได้รับอนิสงส์ เป็นนายกรัฐมนตรี “ผู้รักษากฎหมายและบ้านเมือง” ในยามวิกฤติ และในขณะเดียวกันก็ตกอยู่ในฐานะ”เหยื่อ” ของภาระกิจ Mission Impossible เอาทักษิณกลับบ้านด้วยประชาธิปไตยจำแลง
แต่ไอติม บัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ไม่มีภูมิคุ้มกันใดๆ จากเชื้อโรคร้ายนั้นเลย
ซึ่งไอติม เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่าง ยังมีบัณฑิต มหาบัณฑิต ดุษฎีบัณฑิตอีกมากมายที่มีความรู้มากล้น แต่ไม่มีปัญญาพิจารณาแยกแยะ ดีชั่ว ถูกผิด
กรุงศรีอยุธยาไม่ได้แตกเพราะพม่าข้าศึก แต่แตกเพราะคนไทยแตกแยกและเป็นไส้ศึกฉันใด
กรุงเทพมหานครอาจจะล่มสลายด้วยสาเหตุเดียวกันกับสมัยอยุธยาแตกหรือไม่?
……………………………………………………………………
อัษฎางค์ ยมนาค
ราษฎร