บทนำของ Conversation with Thaksin
การสนทนากับทักษิณ ที่นครดูไบ โดย ทอม เพลท ผู้เขียนให้ข้อเท็จจริงที่สำคัญ 2 ประการคือ
1. ใช้ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ถูกๆ ของทักษิณ จนถึงขั้นไม่สามารถสื่อสารให้เจ้าของภาษารู้เรื่องสมบูรณ์ชัดแจ้ง
2. ปัญหาเรื่องการพูดพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ของทักษิณ โดยไม่คิดหลบหลีกที่แต่ตอบตามที่ใจคิด
จะเห็นได้ว่า คนไทยเห็นทักษิณพูดภาษาอังกฤษรัวๆ ก็เชื่อว่าทักษิณเก่งภาษาอังกฤษ ซึ่งมีคนไทยกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า นักการเมืองที่พูดภาษาอังกฤษเก่ง คือคนเก่งคนฉลาดที่เหมาะกับการเป็นผู้นำประเทศ แต่ความจริงเฉลยแล้วว่าทักษะด้านภาษาอังกฤษของทักษิณตรงกันข้ามกับความเข้าใจของผู้สนับสนุนทักษิณ ซึ่งหมายความว่า ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของยิ่งลักษณ์น้องสาวยิ่งแย่กว่าทักษิณอีกมาก
รวมทั้ง การสร้างภาพความจงรักภักดีของทักษิณนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่ ทอม เพลท ถอดความได้จากการสัมภาษณ์หลายครั้งว่า ความจริงแล้วทักษิณพูดพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่ยั้งเสมอ
ต่อไปนี้เป็นบทเริ่มต้นของคำแปลฉบับเต็ม “Conversations with Thaksin” โดยดร.สมเกียรติ ที่สำนักข่าวอิศรานำมาเผยแพร่
……………………………………………………………………………..
Conversation with Thaksin เขียนโดย Tom Plate (ทอม เพลท) จากการสนทนากับคุณทักษิณ ที่นครดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE) เป็นการสนทนาในเดือนธันวาคม ปี 2010 แยกเป็นการคุยกันที่บ้านพักชานเมืองในเขต Emirates Hills ของคุณทักษิณสี่ครั้ง และที่ร้านอาหารบนอาคารสูง Burj Khalifa อีกหนึ่งครั้ง ต่อมาอีกครึ่งปี ในกลางปี 2011 มีการสนทนารอบที่หกระหว่างรับประทานอาหารค่ำ
ปัญหาแรก ที่มักใช้เป็นข้ออ้างให้พ้นความรับผิดชอบได้เสมอหากคุณทักษิณพูดอะไรผิดไปจนอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อผู้อื่นหรือต่อคุณทักษิณเอง หรืออาจจะเป็นความเสียหายต่อความจริงที่มีอยู่แต่เดิม ก็คือปัญหาเรื่องที่ว่าภาษาอังกฤษของคุณทักษิณนั้นไม่ดี
คุณทักษิณใช้ภาษาอังกฤษแบบผิดๆถูกๆ ไม่เป็นภาษาอังกฤษที่ฟังรู้เรื่องครบถ้วน เป็นภาษาอังกฤษแบบคนที่ไม่มีความรู้และไม่มีทักษะทางภาษามากพอที่จะสื่อสารให้เจ้าของภาษารู้เรื่องสมบูรณ์ชัดแจ้งได้ Tom Plate ในฐานะผู้สัมภาษณ์และนำบทสัมภาษณ์มาถอดความเพื่อเขียนเป็นหนังสือจึงต้องอธิบายเป็นการออกตัวแต่แรกในคำนำในหน้า (3-4) ว่า:
“… ในการพูดภาษาอังกฤษ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยใช้ภาษาเหมือนกับเป็นโครงสร้างไวยากรณ์ภาษาไทยและการออกเสียงก็กระท่อนกระแท่นตะกุกตะกัก แต่ก็ไม่ยากนักที่จะทำความเข้าใจถ้าหากเป็นเพียงกันคุยกันต่อหน้า – แต่พอนำมาถอดความเป็นประโยคพิมพ์ให้ตรงตามคำพูดแบบคำต่อคำก็ทำให้เกือบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอ่านรู้เรื่องได้ง่ายๆ
ดังนั้นเพื่อให้ได้ความหมายที่ชัดเจนและเพื่อให้อ่านรู้เรื่องผมจึงได้นำบทสนทนาที่เป็นเสียงพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษแบบไทยๆมาปรับแต่งใหม่ให้ราบรื่นเป็นภาษาอังกฤษแบบปรกติที่ใช้กันเป็นสากล หากไม่ปรับแต่งใหม่ตามที่ว่าแล้ว นอกจากจะทำให้เป็นการยากยิ่งที่ผู้อ่านจะเข้าใจว่าคุยเรื่องอะไรกันแล้ว ก็จะยังทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องโครงสร้างความคิดทั้งหลายของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้อีกด้วย…”
ปัญหาที่สอง คือปัญหาเรื่องการพูดพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย อันเป็นเรื่องที่คุณทักษิณไม่เคยหยุดหรือหลบหลีกที่จะพูดหรือตอบคำถาม และทุกครั้งที่ถูกถามคุณทักษิณก็จะตอบตามที่ใจคิด
แล้วก็จะเกิดปัญหาตามมาทีหลังว่าพูดทำไม?
มีอะไรในใจลึกซึ้งมากกว่าที่พูดหรืออย่างไร?
เป็นการสวนทางกับการแสดงความจงรักภักดี?
หรือว่าเป็นการพูดในบริบทแห่งเสรีภาพในสังคมประชาธิปไตย?
หรือว่าเป็นเพียงเพราะพูดเป็นภาษาอังกฤษแล้วทำให้เข้าใจหรือแปลความหมายผิดพลาดกันไปเอง โดยคุณทักษิณไม่ได้ตั้งใจจะให้เข้าใจไขว้เขวเช่นนั้น?
ก่อนที่จะอ่านแล้วเข้าใจผิดกันไปตลอด 250 หน้าของหนังสือนี้ และเพื่อป้องกันปัญหาการ“หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” คุณทักษิณมิได้เลือกที่จะหลบคำถามหรือไม่ตอบคำถามเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและสถาบันพระมหากษัตริย์โดยรวม
แต่กลับยินดีที่จะพูดพาดพิงถึงทั้งสองพระองค์และสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่อยากพูดโดยไม่รั้งรอหรือหยุดคิดให้ถ่องแท้ แล้ว Tom Plate ในฐานะผู้เขียนก็เอาทั้งหมดมาพิจารณา ปรับแก้ ตัดแต่ง และตัดทอน ให้เหลือเท่าที่ปรากฏในหนังสือ ลงพิมพ์เฉพาะเนื้อหาที่ Tom Plate คิดว่าจะปลอดภัยจากเงื้อมมือของกฎหมายอาญาไทยว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
แล้วจึงลงพิมพ์เฉพาะส่วนของบทสนทนาที่ปรับแต่งแล้วจะปลอดภัยเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เผื่อมีการพิมพ์ครั้งที่สองเมื่อสภาวการณ์เปลี่ยนไป รอบรรยากาศและกฎหมายเอื้ออำนวยให้ลงพิมพ์คำวิจารณ์ของคุณทักษิณฯต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ส่วนที่ยังเก็บไว้ได้อย่างเสรี
แม้จะตัดทอน-กักเก็บบทสนทนาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว อีกทั้งได้ขัดเกลาและเขียนใหม่อีกบางส่วน รวมทั้งให้คุณสุรนันท์ เวชชาชีวะ ช่วยแปลเอกสารสิ่งพิมพ์ส่วนที่เกี่ยวกับการยึดอำนาจของฝ่ายทหารในปี 2006/2549 อีกด้วย
ไม่ว่าจะตัดทอนออกไปเท่าใด สิ่งที่พูดไปแล้วแต่ไม่กล้าเอามาลงพิมพ์ก็ยืนยันความจริงอย่างหนึ่งได้ว่าคุณทักษิณพาดพิงสถาบันพระมากษัตริย์มากกว่าและหนักกว่าส่วนที่ลงพิมพ์แน่นอน
……………………………………………………………………………..
อัษฎางค์ ยมนาค
นำเสนอ