ชัชชาติ กับการพัฒนากรุงเทพฯ ด้วยงานโยธาที่ถนัดยังสอบตก แล้วงานสร้างแบรนด์จะเหลืออะไร!
City Identity ของเมืองต้องมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและเป็นที่จดจำที่สามารถสื่อสารคุณค่าและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ
อัตลักษณ์ที่ชัดเจนของเมืองในการทำ City Branding คือการกำหนดและสื่อสารถึงลักษณะเด่นเฉพาะตัวของเมืองที่ทำให้เมืองนั้นแตกต่างจากเมืองอื่นๆ และสร้างความจำจดให้กับผู้คน
การสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและน่าจดจำจะช่วยให้เมืองดึงดูดนักท่องเที่ยว นักลงทุน และผู้คนที่สนใจมาเยี่ยมชมและใช้บริการต่าง ๆ ในเมือง ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเมืองในระยะยาว
อัตลักษณ์ที่ชัดเจนของเมืองในการทำ City Branding คือการกำหนดและสื่อสารถึงลักษณะเด่นเฉพาะตัวของเมืองที่ทำให้เมืองนั้นแตกต่างจากเมืองอื่นๆ และสร้างความจำจดให้กับผู้คน ทั้งนี้ อัตลักษณ์ของเมืองควรประกอบด้วยองค์ประกอบดังนี้:
• ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
• สถานที่ท่องเที่ยวและจุดเด่น
• วิถีชีวิตและประเพณี
• อาหารและเครื่องดื่ม
• ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
• เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
• ประชากรและความหลากหลาย
• สัญลักษณ์และภาพลักษณ์
เช่น โลโก้ของเมือง สีประจำเมือง หรือคำขวัญที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของเมือง
การรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างลงตัวจะช่วยให้เมืองมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนและสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในการทำ City Branding
…………………………………………………………………………
City Identity ของกรุงเทพฯ คืออะไร
อัตลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่ทำให้เมืองนี้มีความโดดเด่นและน่าจดจำในระดับโลก ประกอบด้วยลักษณะและจุดเด่นดังนี้:
1. วัดและศาสนสถานที่งดงาม
วัดที่มีความสำคัญทางศาสนาและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
2. อาหารและสตรีทฟู้ด
3. วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่มีทั้งความเป็นสมัยใหม่และประเพณีดั้งเดิมอยู่ร่วมกัน
4. ศูนย์กลางการช็อปปิ้ง
5. สถานบันเทิงและชีวิตกลางคืน
6. การเดินทางทางน้ำและคลอง
7. สถาปัตยกรรมสมัยใหม่และดั้งเดิม
การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยแบบดั้งเดิมกับตึกสูงและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
8. การต้อนรับและความเป็นมิตรของคนท้องถิ่น
การสื่อสารและโปรโมทกรุงเทพฯ โดยเน้นที่อัตลักษณ์เหล่านี้ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลก
…………………………………………………………………………
ดังนั้น โลโก้ กรุงเทพฯ สำหรับ city identity ควรเป็นอย่างไร
การออกแบบโลโก้สำหรับกรุงเทพฯ เพื่อสร้างอัตลักษณ์เมือง (City Identity) ควรสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้น โดยควรพิจารณาองค์ประกอบต่อไปนี้:
1. สัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์
เช่น ภาพของสถานที่สำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง, วัดดังๆ , หรือตึกสูงสมัยใหม่ เพื่อให้ผู้คนจำกรุงเทพฯ ได้ทันที
2. สีสัน
ควรเลือกใช้สีที่เป็นที่รู้จักและมีความหมาย เช่น สีทองที่สื่อถึงวัฒนธรรมไทยและความรุ่งเรือง หรือสีฟ้าที่สื่อถึงแม่น้ำเจ้าพระยา
3. ตัวอักษร
การใช้ฟอนต์ที่มีความเป็นไทยผสมผสานกับความทันสมัย จะช่วยเน้นความเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ
4. องค์ประกอบทางวัฒนธรรม
เพิ่มลวดลายที่สะท้อนถึงศิลปะไทย เช่น ลายไทย ลายกนก ฯลฯ
5. สื่อถึงความหลากหลาย
สะท้อนถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในกรุงเทพฯ เช่น การผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย
ตัวอย่างการออกแบบโลโก้กรุงเทพฯ อาจเป็นดังนี้:
• สี
ใช้สีเพื่อเน้นความเป็นไทยและความสำคัญของแม่น้ำเจ้าพระยา
• ตัวอักษร
ใช้ฟอนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ไทย แต่ยังคงความเรียบง่ายและทันสมัย ตัวอักษร “Bangkok” ใช้ฟอนต์ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและความทันสมัย
การออกแบบโลโก้เช่นนี้จะช่วยสื่อสารถึงอัตลักษณ์และความเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ ได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
…………………………………………………………………………
ตัวอย่างของเมืองที่มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนและประสบความสำเร็จระดับโลกในการทำ City Branding มีดังนี้:
• ปารีส, ฝรั่งเศส
– อัตลักษณ์: เมืองแห่งความรักและแฟชั่น
– สื่อสาร: ใช้ภาพลักษณ์โรแมนติกและความหรูหราในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
• โตเกียว, ญี่ปุ่น
– อัตลักษณ์: เมืองแห่งเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัย
– สื่อสาร: ผสมผสานความดั้งเดิมและความทันสมัยในการโปรโมทเมือง
• นิวยอร์กซิตี้, สหรัฐอเมริกา:
– อัตลักษณ์: เมืองที่ไม่เคยหลับไหล
– สื่อสาร: เน้นความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายทางวัฒนธรรม
• บาร์เซโลนา, สเปน:
– อัตลักษณ์: เมืองแห่งสถาปัตยกรรมและศิลปะ
– สื่อสาร: ใช้ศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
• ซิดนีย์, ออสเตรเลีย:
– อัตลักษณ์: เมืองแห่งท่าเรือและชายหาด
– สื่อสาร: เน้นความสวยงามของท่าเรือและวิถีชีวิตริมชายหาด
เมืองเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการสร้างอัตลักษณ์ที่ชัดเจนและเป็นที่รู้จักทั่วโลกผ่านการใช้จุดเด่นและลักษณะเฉพาะของตนในการสื่อสารและดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุน
…………………………………………………………………………
อภิรักษ์ โกษะโยธิน
อดีตผู้ว่าฯ กทม. ผู้สร้างแบรนด์ดิ้งกรุงเทพฯ ที่อยู่ยั้งยืนยงมากกว่าที่หลายคนคาด ด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์เดียวที่หลงเหลือเหนือหัวพวกเราบนท้องถนนมาจนถูกถอดออกไปโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติคนปัจจุบัน
แคมเปญขิงอดีตผู้ว่าฯอภิรักษ์ คือ “กรุงเทพฯ…ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว“ (Bangkok…City of Life) เปิดตัวที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549
ด้วย Branding ที่ใช้ในการสื่อสารแคมเปญผ่านโลโก้ที่เป็นไอค่อนรูปร่างตัดทอนจาก ‘ลายประจำยาม’ ซึ่งเป็นลายไทยประเภทหนึ่ง ที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสตะแคง ลักษณะคล้ายดอกไม้ ซึ่งดัดแปลงมาจากดอกไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ดอกสี่ทิศ’ ความสำคัญของลายไทยลายนี้คือเป็นลายแม่แบบหลักของศิลปะไทย
ตัวโลโก้ประกอบไปด้วย 4 สี บนกลีบดอกไม้ทั้ง 4 กลีบ ที่มีจุดร่วมตรงกลาง แสดงความเป็นดุลยภาพ สื่อถึงความสมดุลในการเติบโต และสื่อถึงการก้าวไปสู่เป้าหมายหลักพร้อม ๆ กัน
กลีบบนสุดเป็น ‘สีส้ม’ สื่อถึง ‘มิติด้านเศรษฐกิจ’ จากนโยบายทางเศรษฐกิจทั้งการสร้าง Bangkok Brand
กลีบทางซ้ายเป็น ‘สีชมพู’ สื่อถึง ‘มิติด้านวัฒนธรรม’ ผ่านนโยบายที่ส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมความเป็นไทยในสากลโลก ทั้งการเพิ่มคุณค่าทางวัฒนธรรมผ่านการผลักดันเมืองหลวงให้เป็น ‘มหานครแห่งวัฒนธรรม (City of culture)’ ส่งเสริมย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงพัฒนากรุงเทพฯ ให้กลายเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาค
กลีบทางขวาเป็น ‘สีฟ้า’ สื่อถึง ‘มิติด้านสิ่งแวดล้อม’สร้างพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติม และลดมลภาวะทุกรูปแบบให้ได้มากที่สุด
และกลีบสุดท้ายที่ด้านใต้เป็น ‘สีเขียว’ สื่อถึง ‘มิติด้านคุณภาพชีวิต’ ว่าด้วยนโยบายความอยู่ดีมีสุข การเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน และสร้างโอกาสให้กับทุกคน
ไอคอนนี้ถูกใช้ประกอบกับคำว่า “Bangkok City of Life”
…………………………………………………………………………
อภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ผู้สร้างตำนาน Bangkok Brand ซึ่งเป็น City Branding หรือ Citi Identity ที่ประสบความสำเร็จ
เรียนจบ MBA การตลาดที่ นิด้า และประกาศนียบัตรชั้นสูงทางการบริหาร จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เริ่มงานสายโฆษณามาก่อนกับตำแหน่ง AE ที่ ”Lintas“ บริษัทโฆษณามีชื่ออันดับต้นๆ ของเมืองไทย แล้วไปเป็น AD ที่ “ดามาร์กส์” ก่อนจะข้ามไปทำงานกานตลาดเต็มรูปแบบที่บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า แล้วไปเป็น MD ที่บริษัท ฟริโต-เลย์ และเป็น CEO ทีีบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็น Co-CEO บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์ จำกัด (คู่กับ นายศุภชัย เจียรวนนท์) สุดท้ายเป็นประธานกลุ่มการตลาดและบริหารงานสื่อ กลุ่มบริษัทในเครือเทเลคอมเอเชีย ปัจจุบันคือ ทรู คอร์ปอเรชั่น ก่อนจะลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.
จะเห็นได้ว่า อภิรักษ์ โกษะโยธิน มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากสายงานการโฆษณาและการตลาด จึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจกับความสำเร็จของการทำ CI หรือ City Identity ของกรุงเทพฯ ที่ทำให้ตัวอักษรโลโก้คำว่า Bangkok เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมไปถึงคนไทยด้วยกันเอง ใช้เป็นจุดถ่ายภาพเพื่อเผยแพร่อย่างแพร่หลายไปทั่วโลกตลอดเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ
จนเป็นภาพจำที่ใครมาลบก็ต้องพบกับการเปรียบเทียบ ยิ่งทำได้ไม่ดีกว่าเก่าหรือดีเท่าเก่า ยิ่งทำให้ถูกเปรียบเทียบและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เหมือนอย่างที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ โดนอยู่ในขณะนี้
…………………………………………………………………………
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ซึ่งมีแบคกราวนด์เป็นวิศวกรโยธา
แต่งานโยธาที่ครอบคลุมถึงการพัฒนาและปรับปรุงกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัย มีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอและปลอดภัย รวมถึงสามารถรองรับการเติบโตของประชากรและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต
เช่น การออกแบบ ก่อสร้าง และบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงานและชีวิตประจำวันของประชาชนในเมืองใหญ่ เพื่อส่งเสริมการเดินทางที่มีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะเรื่องมลพิษ, การจัดการน้ำและระบบจัดการน้ำท่วม
แต่ดูเหมือนผู้ว่าฯ ชัชชาติ วิศวกรโยธาระดับรองศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธา ยังสอบตก โดยไม่สามารถสร้างผลงานโดดเด่นใดๆ ชัดเจน
แล้วงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วย City Identity จะเหลืออะไรให้ไม่โดนเปรียบเทียบและวิพากษ์วิจารณ์ยับเยิน
…………………………………………………………………………
อัษฎางค์ ยมนาค