เอาทหารไปสอนประวัติศาสตร์ ทำไม?
“ตอนที่ 1 ปฏิบัติการจิตวิทยา“
โดย อัษฎางค์ ยมนาค
……………………………………………………………………….
เมื่อกลุ่มสอนเด็กให้ชังชาติเติบโต คนก็ด่ารัฐ
พอรัฐหาทางรับมือ โดยขอให้ทหารซึ่งมีความเชี่ยวชาญมาช่วย ก็ด่าทหาร ด่ารัฐ
จะเอายังไงกันประเทศไทย ?
……………………………………………………………………….
ทหารมีไว้ทำไม?
คือคำถามของผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และระบอบการปกครองของไทย ซึ่งมองเผินๆ ทหารมีไว้รบ แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งคล้อยตามพวกที่เป็นปฏิปักษ์ต่อชาติเพราะเกิดมาก็ไม่เคยเห็นทหารไทยไปรบกับใคร
แต่คำตอบที่ลึกซึ้งและเที่ยงแท้ในระดับสากลก็คือ ทหารมีหน้าที่ปกป้องชาติและประชาชน ซึ่งเท่ากับการปกป้องสถาบันหลักของชาติและปกป้องระบอบการปกครอง
คำว่าสงคราม ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการออกรบในสนามรบเท่านั้น เพราะสงครามในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ เช่น สงครามการค้า สงครามการเมือง สงครามเย็น สงครามจิตวิทยา ซึ่งไม่มีการรบบนสนามรบ แต่ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับการรบในสนามรบ และทหารคือกำลังสำคัญที่ถูกฝึกอบรมมา “เพื่อปกป้องชาติและประชาชน ซึ่งเท่ากับการปกป้องสถาบันหลักของชาติและปกป้องระบอบการปกครอง”
……………………………………………………………
กลุ่มคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และการปกครองของไทย รุกคืบไปทุกหย่อมหญ้าตั้งแต่โรงเรียนเด็กเล็กถึงมหาวิทยาลัยและหน่วยงานราชการและเอกชนมานานแล้ว ด้วยการสอนวิชาประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครอง หน้าที่พลเมือง อย่างบิดเบือน โดยอาศัยยุทธการที่เรียกว่า “ปฏิบัติการจิตวิทยา” ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากประเทศมหาอำนาจผู้อยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองของไทย
เมื่อกลุ่มสอนเด็กให้ชังชาติเติบโต คนก็ด่ารัฐ
พอรัฐหาทางรับมือ โดยขอให้ทหารซึ่งมีความเชี่ยวชาญมาช่วย ก็ด่าทหาร ด่ารัฐ
จะเอายังไงกันประเทศไทย ?
***ล่าสุด รัฐเคลื่อนไหวโดยกระทรวงศึกษาขอกำลังสนับสนุนทหาร ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน “ปฏิบัติการจิตวิทยา” เพื่อรับมือกับ การปฏิบัติการจิตวิทยาจากฝ่ายล้มล้าง พวกคุณคนไทยบางคนบางกลุ่มกลับมองไม่ออก แถมมาถล่มการปฏิการของฝ่ายปกป้องชาติซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกัน***
ทหารกลุ่มนี้ที่เป็นวิทยากร เป็นทหารหรืออาจารย์พลเรือนในหน่วยงานทหารที่มาจากจิตอาสา ๙๐๔ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคลากรที่มีความสามารถเรื่องจิตวิทยาการเรียนรู้ของเด็ก
ว่าเด็กในวัยนี้ควรเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในมิติใดบ้าง เช่น การปลูกฝังให้ซึมซับ ปลูกฝังความรักชาติ รักสถาบัน โดยเอาเรื่องราวที่เป็นวีรกรรมของพระมหากษัตริย์ หรือขุนศึกแต่ละสมัย มาเป็นสื่อในการจัดกิจกรรมปลูกฝังเด็ก
……………………………………………………………………….
ปฏิบัติการจิตวิทยา คืออะไร
นักคิดทางยุทธศาสตร์สงครามกองโจรที่สำคัญ คือ เหมาเจ๋อตุง ได้กล่าวถึง หนทางไปสู่ชัยชนะในสงครามยืดเยื้อ ต้องดำเนินตามแนวทาง ๔ ประการ คือ
”ทางการทหาร, การเมือง จิตวิทยาและด้านเศรษฐกิจ“
จะเห็นได้ว่าเหมาเจ๋อตุงมุ่งเน้นถึง “การดำเนินการทางด้านจิตวิทยา” เป็นหนึ่งในสี่ของการไปสู่ชัยชนะในการทำสงครามยืดเยื้อ เพื่อการปฏิวัติจีน
การปฏิบัติการจิตวิทยานั้นคืออะไร?
ความหมายของการปฏิบัติการจิตวิทยา โดยคณะกรรมการปฏิบัติการจิตวิทยาแห่งชาติ (๓๐ ส.ค.๑๗) หมายถึง “การปฏิบัติกิจกรรมทั้งปวงในด้านการเมือง การทหาร การเศรษฐกิจ และ สังคม ที่กระทำต่อเป้าหมายต่างๆ ทั้งฝ่ายตรงข้าม, ฝ่ายเป็นกลาง และฝ่ายเดียวกัน ทั้งในยามปกติและยามสงคราม เพื่อก่อให้เกิดผลเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิดเห็น อารมณ์ ทัศนคติ และพฤติกรรมของเป้าหมายในทางที่จะสนับสนุนผลประโยชน์ของชาติ”
……………………………………………………………………….
ความหมายของการปฏิบัติการจิตวิทยา
ตามหลักนิยมกิจการพลเรือนกองทัพบก พ.ศ.๒๕๒๕ หมายถึง “การเผยแพร่ข่าวสาร ความคิดเห็น ลัทธินิยม หรือการจูงใจต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการอื่นๆตามแผนที่ได้วางไว้จะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม เพื่อให้มีอิทธิพลเหนือจิตใจกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการในวิถีทางที่จะช่วยสนับสนุนให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชาติ”
สรุปความหมายการปฏิบัติการจิตวิทยา คือ
๑. การปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้
๒. กำหนดเป้าหมายหรือกลุ่มเป้าหมาย
๓. เป้าหมายเปลี่ยนแปลงท่าทีและพฤติกรรม
๔. กระทำเพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ของชาติ
……………………………………………………………………….
ความสำคัญการปฏิบัติการจิตวิทยา
ปัจจุบันการปฏิบัติการจิตวิทยาได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินนโยบายของรัฐเพื่อบรรลุผลประโยชน์ของชาติ โดยดำเนินการผสมผสานกับเครื่องมือหลักอีก ๓ ประการ
คือการดำเนินการทางการเมือง การดำเนินการทางเศรษฐกิจ และการดำเนินการทางทหาร
การปฏิบัติการจิตวิทยา ถือเป็นอาวุธหลักของสงครามสมัยใหม่ ปัจจัยทางจิตวิทยา เป็นส่วนประกอบสำคัญยิ่ง อันจะขาดเสียมิได้ในการปฏิบัติการทุกเรื่องในสนามรบ
ดังนั้นการส่งเสริมการปฏิบัติการจิตวิทยาที่ถูกต้องและเหมาะสม ย่อมสามารถปรับแก้พฤติกรรมและประสิทธิภาพในการรบและหน่วยได้
การใช้การปฏิบัติการจิตวิทยาเป็นอาวุธหลัก โดยมุ่งต่อจิตใจของบุคคลเป้าหมายฝ่ายตรงข้ามแล้ว อาจทำให้ฝ่ายเราได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วและประหยัดทรัพยากร
……………………………………………………………………….
ทำไมเอาทหารไปสอนประวัติศาสตร์?
ตัวหลักสูตรหรือเนื้อหาที่จะทหารนำไปสอนนั้นเป็นไปตามหลักสูตรที่กระทรวงกำหนดอยู่แล้ว แต่ที่ทหารลงไปทำกิจกรรมในลักษณะของการเป็นโค้ช เนื่องจากทหารเชี่ยวชาญในเรื่อง “ปฏิบัติการจิตวิทยา”
ซึ่งนำลงไปฝึกครูที่เขารับการอบรม ให้ขยายผลไปฝึกเด็กต่อ
ในลักษณะการปลูกฝังให้เกิดความรักชาติ รักสถาบัน เห็นความเสียสละของบรรพบุรุษ
เพราะการเรียนประวัติศาสตร์ในเด็กระดับประถมมัธยม
หลักสูตรจะเน้นเรื่องของการปลูกฝังให้รักชาติ ผ่านเรื่องราวที่เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ครูจะต้องสอนเด็กในลักษณะปลูกฝังความรักชาติ ปลูกฝังทัศนคติ ซึ่งกิจกรรมแบบนี้ ทหารปฏิบัติการจิตวิทยา เป็นผู้มีความถนัดอยู่แล้ว
ดังเช่นในสมัยปี ๒๕๒๒-๒๓ ที่ตอนนั้นมันมีโครงการของกลาโหม คือ ทสปช.ลงไปฝึกชาวบ้านในพื้นที่สีแดงสีชมพู
ทหารพวกนี้เป็นทหารปฏิบัติการจิตวิทยา ที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นแล้ว ถ้าเข้าใจไม่ผิด น่าจะมีมรตั้งแต่ยุคของท่านพลเอกเปรม ที่มีการพัฒนาทหารในส่วนนี้ขึ้นมา เพื่อดึงคนที่เข้าป่า ให้กลับมาสู่ชีวิตปกติของคนไทย
ทหารลงไปในเขตเป้าหมาย ฝ่ายปกครองของแต่ละอำเภอแต่ละจังหวัดก็เข้ามาช่วย พวกข้าราชการครูในเขตนั้นๆ ก็เข้ามาช่วยเป็นลูกทีม
นี่คือ เรื่องนี้กระทรวงศึกษาเล็งเห็นแล้วว่า จะพัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ให้แก่เด็กได้อย่างไร
……………………………………………………………………….
โปรติดตามตอนต่อไป
ยังมีอีกยาวมากและเข้มข้น