สื่อต่างชาติรับจ้างใครมาเชียร์ก้าวไกลแต่ให้ร้าย 4 สถาบันหลักของไทย
โดย อัษฎางค์ ยมนาค
สื่อค่ายนี้ทำคลิปให้ร้าย 4 เสาหลักของไทย ด้วยเนื้อหาที่เข้าข้างพรรคก้าวไกล ซึ่งศาลตัดสินว่าล้มล้างการปกครอง ทำให้อดนึกไม่ได้ว่า สื่อนี้รับจ้างใครมา ถึงได้เข้าข้างก้าวไกลแต่ให้ร้าย 4 สถาบันหลัก
ผมไปคอมเมนท์ในคลิปนั้นซึ่งอยู่ใน YouTube มาแล้ว ข้อความเบื้องต้นลงไปแบบนี้ เดี๋ยวมีเวลาจะเอามาขยายความในรายละเอียดเพิ่ม ท่านใดมีความสามารถทางภาษาอังกฤษ ช่วยกันไปเขียนข้อเท็จจริงหรือไปประท้วงในคลิปนั้นกันด้วยครับ ที่คลิปนี้ https://youtu.be/vwkeOjB-2cc?si=M34Fu6XWNWvAjniz
ส่วนผมเขียนลงไปแล้ว ดังนี้
………………………………………………………………………..
1. The Status of the Thai Monarchy
The portrayal of the Thai King in the video is distorted and defamatory, lacking factual evidence. The King of Thailand is revered by the people and actively engages in royal duties that benefit the country in numerous ways. Claims such as appointing a dog as heir or behaving inappropriately are baseless and are intended to discredit the monarchy.
2. The Lesé Majesté Law (Article 112)
The purpose of the Lesé Majesté law is to protect the monarchy, which holds a crucial role in Thai society, similar to laws in other countries that protect important national institutions. This law is not used to suppress general freedom of speech but is meant to maintain public order and protect a deeply respected institution. The enforcement of this law follows a fair and transparent legal process.
3. Actions of the Constitutional Court
Thailand’s Constitutional Court is an independent body responsible for interpreting and enforcing constitutional law. When the court decides to dissolve a political party or remove a prime minister, it follows due legal and constitutional processes, without interference from any political factions. The court’s decisions are based on the assessment of facts and evidence, with no political bias.
4. The Political Situation in Thailand
Thailand has a democratic electoral system that follows international standards. Citizens can freely and fairly exercise their voting rights. The political parties that win elections are granted the right to form a government according to the constitution. Political uncertainty occurs in many countries, and the Thai government is working towards resolving issues through promoting national unity and continued democratic governance.
5. Reforms and Freedom of Speech
The Thai government is committed to democratic principles and freedom of expression. Individuals and groups have the right to express their opinions within the bounds of the law, as long as they do not threaten national security or violate the rights of others. Reforms in various matters can be discussed collaboratively between the government and the people to ensure that any changes align with Thai cultural and social contexts.
Conclusion
The information in this video distorts facts on several fronts, including the role of the King, the Lesé Majesté law, and Thailand’s political situation. The Thai government remains dedicated to protecting important institutions, upholding justice, and promoting democracy within the country.
………………………………………………………………………..
1. สถานะของพระมหากษัตริย์
การนำเสนอภาพลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ในคลิปดังกล่าวเป็นการบิดเบือนและใส่ร้ายโดยขาดข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง พระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นที่เคารพรักของประชาชนและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพัฒนาประเทศในหลายด้าน การกล่าวหาว่าทรงแต่งตั้งสุนัขเป็นทายาทหรือกระทำการในลักษณะที่ไม่เหมาะสมนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่มีมูลความจริงและเป็นการบิดเบือนเพื่อดิสเครดิตสถาบันพระมหากษัตริย์
2. เรื่องกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (มาตรา 112)
กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีบทบาทสำคัญในสังคมไทย ไม่ต่างจากกฎหมายในหลายประเทศที่มีกฎหมายปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ กฎหมายนี้ไม่ได้ถูกใช้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยทั่วไป แต่ใช้ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและคุ้มครองสถาบันที่เป็นที่เคารพนับถือเท่านั้น โดยการบังคับใช้กฎหมายนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมและโปร่งใส
3. การดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญไทยเป็นองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตีความและบังคับใช้กฎหมายตามรัฐธรรมนูญ การที่ศาลตัดสินยุบพรรคหรือปลดนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายใด และเป็นไปเพื่อรักษาความเป็นธรรมและความเสมอภาคในระบบการเมือง การตัดสินใจของศาลเกิดจากการพิจารณาข้อเท็จจริงและหลักฐาน โดยไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมืองแอบแฝง
4. สถานการณ์การเมืองไทย
ประเทศไทยมีระบบการเลือกตั้งที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ประชาชนมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งได้อย่างอิสระและเสรี พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ ความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ และรัฐบาลไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาผ่านการส่งเสริมความสมานฉันท์และความเป็นประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง
5. การปฏิรูปและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
รัฐบาลไทยยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ประชาชนและกลุ่มต่าง ๆ มีสิทธิ์ในการแสดงออกตามกฎหมาย ตราบเท่าที่ไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น การปฏิรูปในเรื่องต่าง ๆ เป็นเรื่องที่รัฐบาลและประชาชนสามารถหารือร่วมกันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับบริบทและวัฒนธรรมของสังคมไทย
ข้อสรุป
ข้อมูลในคลิปนี้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงหลายประเด็น ทั้งในเรื่องของพระมหากษัตริย์ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และสถานการณ์ทางการเมืองไทย รัฐบาลไทยยังคงมุ่งมั่นในการปกป้องสถาบันที่มีบทบาทสำคัญ รักษาความยุติธรรม และส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในสังคมอย่างต่อเนื่อง
………………………………………………………………………..
สคริปต์(บางส่วน)ในคลิปนั้นให้ร้ายว่า
พระราชาผู้มั่งคั่งที่สุดในโลก แต่งตั้งสุนัขให้เป็นทายาท และสั่งให้ข้าราชบริพารคลานเข้าเฝ้า นี่คือพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย และคุณอาจถูกจำคุกหากกล่าวถึงพระองค์ในทางที่ไม่ดี
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ศาลตัดสินว่าละเมิดรัฐธรรมนูญ ศาลเดียวกันสั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเลือกตั้งปีที่แล้ว และสั่งให้ผู้นำและคณะกรรมการบริหารของพรรคหมดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี
คุณอาจถามว่าราชวงศ์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร มาค้นหากัน
ภายนอกประเทศไทยดูเหมือนติดอยู่ในวงจรที่ไม่มีวันจบสิ้น มีการเลือกตั้งที่ประชาชนเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง แต่เสียงเหล่านั้นถูกปฏิเสธโดยกลุ่มผู้มีอำนาจเก่าที่สนับสนุนราชวงศ์ซึ่งครองประเทศมาหลายชั่วอายุคน การเลือกตั้งที่ผ่านมาเกือบทุกครั้งตั้งแต่ปี 2005 ส่งผลให้พรรคที่ชนะถูกปฏิเสธสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล ถูกโค่นล้มด้วยการรัฐประหาร หรือถูกปลดออกจากตำแหน่งในทางอื่นๆ
ดังนั้นเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสิบคนของไทยถูกแบน พรรคการเมืองถูกยุบ และนายกรัฐมนตรีถูกโค่นล้มโดยการรัฐประหารหรือคำตัดสินของศาล โดยศาลยุติธรรมมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้เพื่ออำนาจอย่างต่อเนื่อง
การแต่งตั้งนายกฯ เศรษฐาในเดือนสิงหาคม 2023 ยุติภาวะชะงักงันทางการเมืองสามเดือนหลังการเลือกตั้ง แต่ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยเข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับคู่แข่งทหารที่เคยเป็นศัตรูมาอย่างยาวนาน คดีที่ฟ้องเศรษฐาถูกยื่นในเดือนพฤษภาคมโดยกลุ่มวุฒิสมาชิกแต่งตั้งโดยทหารที่ต้องการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากการแต่งตั้งพีระศักดิ์ ชุมพล ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เดินหน้าก้าวสู่ประชาธิปไตยอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีการยื่นฟ้องคดีในศาลหลายคดีได้สร้างความตึงเครียดอีกครั้ง โดยมีมาตรา 112 ที่อยู่ศูนย์กลาง
กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของประเทศไทยซึ่งห้ามการดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ถือเป็นกฎหมายที่เข้มงวดที่สุดในโลก รัฐบาลที่หนุนหลังโดยทหารใช้กฎหมายนี้เพื่อจำกัดเสรีภาพในการพูด
การร้องเรียนเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพสามารถถูกยื่นโดยใครก็ได้ต่อใครก็ได้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสอบสวนอย่างเป็นทางการเสมอ ผู้ที่ถูกจับกุมอาจถูกปฏิเสธการประกันตัว และบางคนถูกคุมขังเป็นเวลานานก่อนการพิจารณาคดี
พรรคก้าวไกลซึ่งชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือนพฤษภาคม 2023 ด้วยนโยบายปฏิรูปที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ถูกบังคับให้เป็นฝ่ายค้านในเดือนกรกฎาคม 2023 เมื่อวุฒิสมาชิกอนุรักษนิยมขัดขวางไม่ให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลเนื่องจากแคมเปญปฏิรูป และขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกล่าวหาพรรคก้าวไกลว่าบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์และสั่งยุบพรรค
มีคนมากกว่า 200 คนรวมถึงผู้เยาว์หลายคนถูกตั้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สำหรับผู้ที่ได้รับการประกันตัว พวกเขามักต้องจ่ายค่าประกันสูงและเงื่อนไขที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการเคลื่อนไหว
ด้วยความเข้มงวดของกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การใช้กฎหมายอย่างตามอำเภอใจ และเงื่อนไขการประกันตัวที่จำกัด จึงต้องติดตามดูว่าการปราบปรามประชาธิปไตยในครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่สถาบันกษัตริย์แทรกแซง หรือจะเป็นจุดสิ้นสุดของการครอบงำของสถาบันกษัตริย์ไทยหรือไม่”