โครงการ “ดินแดนสรวงสวรรค์แห่งพระราชา“ มูลค่าสองแสนล้านของราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
โดย อัษฎางค์ ยมนาค
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นช่วงวิกฤตแห่งการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ด้วยข้ออ้างของชาติตะวันตกว่าจำเป็นต้องเข้ามาปกครองเพื่อพัฒนาประเทศต่าง ๆ ที่ยังล่าสมัยและป่าเถื่อน เช่น ประเทศในเอเชีย
มีหลายชาติในเอเชียดำเนินยุทธวิธีรับมือชาติตะวันตกด้วยการทหาร เช่น จีน พม่า แต่ล้วนพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
ในขณะที่รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใช้กลยุทธ์ทางการทูต รวมทั้งใช้การพัฒนาและปฏิรูปประเทศในทุก ๆ ด้านให้ทันสมัยเพื่อไม่ให้ชาติตะวันตกใช้เป็นข้ออ้างว่าไทยเป็นประเทศป่าเถื่อน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจนทำให้สยามประเทศรอดพ้นจากการตกเป็นอาณานิคมได้สำเร็จ
ตัวอย่างในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศ นอกจากการปฏิรูประบบราชการ การพัฒนาระบบขนส่ง สาธารณูปโภค แล้วยังมีรายละเอียดอื่นๆ เช่น การแต่งกาย การกินอยู่ การเข้าสังคม กีฬา รวมถึง การแข่งม้า ซึ่งในวัฒนธรรมของชาวตะวันตกถือว่าเป็นกิจกรรมของผู้มีความศิวิไลน์
ดังนั้น หลังจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับจากการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 1 ในปี พ.ศ. 2440 ได้เกิดมีสโมสรน้ำเค็มศึกษา สมาคมของข้าราชการและนักเรียนที่เคยไปศึกษาหรือเคยทำงานในยุโรป ได้ร่วมกับเจ้าของคอกม้าต่าง ๆ จัดแข่งม้าเทียมรถ เพื่อเป็นการต้อนรับและถวายความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 5 โดยปรับให้ท้องสนามหลวงกลายเป็นสนามแข่งม้าชั่วคราว นับเป็นการจัดกีฬาแข่งม้าแบบตะวันตกครั้งแรกของประเทศไทย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งราชกรีฑาสโมสร หรือที่เรียกกว่าว่า “สนามฝรั่ง” เพื่อเป็นทั้งแหล่งบันเทิงจำกัดวงสำหรับคนต่างชาติ
กระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 6 พระยาประดิพัทธภูบาลและพระยาอรรถการประสิทธิ์ ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระบรมราชานุญาตตั้งสโมสรสนามม้า “สนามไทย” แข่งเพื่อให้บริการแข่งม้าสำหรับคนไทยและนำรายได้มาใช้บำรุงพันธุ์ม้าจากประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ และพระองค์มีพระบรมราชานุญาต โดยพระราชทานที่ดินของกรมอัศวราชให้ พร้อมทั้งได้พระราชทานนามว่า “ราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยาม” อีกทั้งทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเสด็จฯ มาทรงเปิดสนามม้าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2459 รวมถึงยังทรงส่งม้าในคอกของพระองค์เข้าร่วมแข่งอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสนามม้าอยู่ใกล้ตลาดนางเลิ้งซึ่งเป็นหนึ่งในย่านการค้าที่สำคัญในกรุงเทพมหานคร คนทั่วไปจึงเรียกสนามแห่งนี้ว่า “สนามม้านางเลิ้ง”
**สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ราชตฤณมัยสมาคม ซึ่งเป็นสมาคมแข่งม้า อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็เนื่องมาจากในหลวงรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ทรงพยายามจะทำให้ประเทศสยามมีภาพพจน์ในความทันสมัยตามแบบตะวันตก ซึ่งรวมถึงการนำกีฬาของชนชั้นสูงจากยุโรปเข้ามาในสังคมไทย**
อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์และความตั้งพระทัยให้ไทยมีภาพพจน์ทันสมัยแบบยุโรปของพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเมื่อผ่านพ้นรัชสมัยของพระองค์ เนื่องจากวัฒนธรรม จารีตประเพณีและความนับถือในพุทธศาสนาทำให้การแข่งม้าในประเทศไทยมีบทบาทที่แตกต่างจากในตะวันตกอย่างมาก
ในตะวันตก โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา การแข่งม้าได้รับการยอมรับว่าเป็นกีฬาของชนชั้นสูง มีประวัติความเป็นมายาวนาน และมักเกี่ยวข้องกับประเพณีและวัฒนธรรมของชนชั้นสูง การพนันในการแข่งม้าในตะวันตกถูกมองว่าเป็นกิจกรรมที่มีระเบียบและควบคุมได้ ไม่ถูกมองว่าเป็นอบายมุขเหมือนในบางประเทศ
ในทางตรงกันข้าม การแข่งม้าในประเทศไทยกลับถูกมองว่าเป็นอบายมุข เนื่องจากการเล่นพนันเป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมนี้ ทัศนคติและค่านิยมของสังคมไทยโดยรวมมีความระมัดระวังและเชิงลบต่อการพนัน ทำให้การแข่งม้าในประเทศไทยไม่เป็นที่นิยมและไม่ได้ถูกมองว่าเป็นกีฬาอย่างในตะวันตก การแข่งม้าจึงมักเชื่อมโยงกับกิจกรรมการพนัน ส่งผลให้มีภาพลักษณ์ในเชิงลบในสังคมไทย
แม้ว่าในปี 2561 สนามม้านางเลิ้งได้ปิดตัวลงหลังจากการยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ยังคงมีบทบาทในการส่งเสริมกีฬาและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับม้าในประเทศไทย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ราชตฤณมัยสมาคมฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ “ดินแดนสรวงสวรรค์แห่งพระราชา” (The Royal Siam Haven) โครงการนี้เป็นการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมแบบผสมที่รวมเอาสนามม้าใหม่สำหรับการแข่งขันระดับสากล โรงแรม 6 ดาว สนามกอล์ฟ ยอร์ชคลับ โรงละคร โรงพยาบาล การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ศูนย์การเรียนรู้ และพื้นที่สำหรับกิจกรรมกีฬาและความบันเทิงอื่น ๆ โดยโครงการนี้ร่วมมือกับบริษัท รอแยล สปอร์ต คอมเพลกซ์ จำกัด และมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 200,000 ล้านบาท ถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ที่ดินขนาด 2,353 ไร่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ
การก้าวสู่อนาคตครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ของราชตฤณมัยสมาคมฯ
อย่างไรก็ตาม การที่ “ราชตฤณมัยสมาคม” มีคำพ่วงท้ายว่า “ในพระบรมราชูปถัมภ์” ยังอยู่ในยุคแห่งขบวนการแซะกร่อน บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุดนั่นคือการล้มล้างการปกครอง
จึงทำให้การเป่าประกาศข่าวเปิดตัวโครงการใหม่ “ดินแดนสรวงสวรรค์แห่งพระราชา” นี้ทำให้ประชาชนที่เปราะบางหลงเข้าใจผิดว่าในหลวงรื้อสนามม้านางเลิ้งเพื่อพัฒนาโครงการธุรกิจการพนันแสนล้านในประเทศไทย
ทั้งที่สนามม้านางเลิ้งในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเป็น อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (King Rama IX Memorial Park)
อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เกิดขึ้นจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงพระราชทานพื้นที่เขตพระราชฐานดังกล่าวให้เป็นสวนสาธารณะที่ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมตามแบบอย่างโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ประชาชนได้เข้าไปใช้ประโยชน์และศึกษาพระราชกรณียกิจของทั้ง 2 พระองค์ ผ่านองค์ความรู้เรื่องน้ำและป่า
ดังนั้น โครงการ “ดินแดนสรวงสวรรค์แห่งพระราชา” 200,000 ล้านของราชตฤณมัยสมาคมฯ เป็นธุรกิจของเอกชน ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสถาบันพระมหากษัตริย์ และในหลวงไม่ได้สนับสนุนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด