โดย อัษฎางค์ ยมนาค
ปัจจัยที่จะทำให้จีนจะกลับมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกแทนสหรัฐอเมริกา
ร่วมฉลองวันชาติจีน 1 ตุลาคม กับเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีน มหาอำนาจจากโลกโบราณ ที่กำลังกลับมาทวงบัลลังก์
การที่จีนจะกลับมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกแทนสหรัฐอเมริกานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อความสามารถของจีนในการก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจที่มีอิทธิพลสูงสุดในโลก
1. เศรษฐกิจ
จีนมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจของจีนกลายเป็นที่สองของโลก และอาจแซงหน้าสหรัฐอเมริกาได้ในแง่ของ GDP แบบ PPP (Purchasing Power Parity) โดยจีนมีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าหลักทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การที่จีนจะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้อย่างมั่นคงในทางเศรษฐกิจนั้นยังขึ้นอยู่กับ:
– นวัตกรรมและเทคโนโลยี: แม้ว่าจีนจะมีความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยี 5G แต่จีนยังคงต้องพัฒนาความสามารถในการเป็นผู้นำในนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีการแพทย์ ซึ่งสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำในหลายด้าน
– การพัฒนาเศรษฐกิจภายใน: ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจในประเทศและการขยายตัวของชนชั้นกลางอาจมีผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจีน นอกจากนี้ จีนยังเผชิญกับปัญหาประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาว
2. การทหาร
จีนมีการลงทุนอย่างมหาศาลในด้านการทหารในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) ของจีนมีการพัฒนาความสามารถทางทหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางด้านกองทัพเรือและระบบอาวุธที่ล้ำสมัย
อย่างไรก็ตาม การจะเป็นมหาอำนาจทางการทหารอันดับ 1 ของโลกนั้นไม่ได้หมายถึงการมีแค่กองทัพที่ใหญ่ แต่ยังต้องมี ความสามารถในการปฏิบัติการระหว่างประเทศ ซึ่งสหรัฐฯ ยังคงมีฐานทัพในหลายประเทศทั่วโลกและมีบทบาททางการทหารในหลายภูมิภาค จีนแม้จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงต้องเพิ่มความสามารถในการสร้างพันธมิตรทางทหารที่กว้างขวางกว่านี้เพื่อทัดเทียมกับสหรัฐฯ
รวมทั้งความสามารถในการปกป้องตนเองและขยายอิทธิพลไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ผ่านกำลังทหารมีความสำคัญอย่างมาก มหาอำนาจที่มีบทบาททางการทหารมักสามารถควบคุมเส้นทางการค้า สร้างพันธมิตร และรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคต่าง ๆ ได้
กองทัพที่ทันสมัยและเทคโนโลยีทางการทหาร เช่น กองทัพเรือที่มีความสามารถข้ามทวีปและการพัฒนานิวเคลียร์ ถือเป็นข้อได้เปรียบในความสามารถทางการทหาร
3. การเมืองระหว่างประเทศ
การเป็นมหาอำนาจทางการเมืองต้องอาศัยการสร้างพันธมิตรและอิทธิพลทางการทูตอย่างกว้างขวาง จีนได้มีโครงการริเริ่มหลายประการ เช่น “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง“ (Belt and Road Initiative, BRI) ที่ส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในหลายประเทศทั่วโลก
ความสามารถในการสร้างพันธมิตร การเข้ามีบทบาทในองค์กรระหว่างประเทศ และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับโลก ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประเทศสามารถแผ่ขยายอิทธิพลออกไปได้มากขึ้น ความสัมพันธ์ทางการทูตที่แข็งแกร่งสามารถช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ขยายฐานทัพทหารในต่างประเทศ และสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
การมีส่วนร่วมในองค์กรเช่น สหประชาชาติ, WTO, G20 และการสร้างเขตการค้าเสรีล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอิทธิพลระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของจีนกับหลายประเทศตะวันตก รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ยังคงเป็นปัญหา ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และประเด็นเกี่ยวกับฮ่องกง ไต้หวัน และสิทธิมนุษยชน ทำให้จีนต้องเผชิญกับการต่อต้านจากบางประเทศ การเป็นมหาอำนาจทางการเมืองต้องอาศัยความสามารถในการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งจีนยังคงมีความท้าทายอยู่
4. ความท้าทายภายในประเทศ
แม้จีนจะมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการทหารอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีความท้าทายภายในประเทศ เช่น:
– ปัญหาประชากรสูงอายุ: การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุและการลดลงของอัตราการเกิดจะสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต
– ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ: ความเหลื่อมล้ำในรายได้ระหว่างพื้นที่ชนบทและเมืองเป็นปัญหาที่อาจกระทบเสถียรภาพทางสังคม
– เสรีภาพและการควบคุมภายในประเทศ: การควบคุมทางการเมืองและสื่อของรัฐบาลจีนอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาประชาคมโลก โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิมนุษยชน
5. ความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา
แม้ว่าจีนจะมีศักยภาพในการก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลก แต่สหรัฐฯ ยังคงเป็นมหาอำนาจที่มีอิทธิพลอย่างมากในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านการทหาร นวัตกรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งสองประเทศยังคงแข่งขันกันในหลายด้าน ซึ่งผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับว่าจีนสามารถรักษาอัตราการเติบโตและขยายอิทธิพลในระดับโลกได้หรือไม่
6 ความสามารถทางเทคโนโลยี
เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งทั้งในด้านเศรษฐกิจและการทหาร ประเทศที่มีความสามารถในการพัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจะสามารถควบคุมทรัพยากรและความรู้ที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสร้างนวัตกรรมที่นำไปสู่ความเป็นผู้นำโลกได้
ตัวอย่างเช่น การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการสำรวจอวกาศเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมความเป็นมหาอำนาจของประเทศ
7. เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเป็นมหาอำนาจ เนื่องจากเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนากองทัพและเทคโนโลยี ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่และหลากหลายสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับประชากรและเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
ความสามารถในการสร้าง GDP สูงและการควบคุมแหล่งพลังงานหรือทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือโลหะหายาก เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
8. ความแข็งแกร่งทางการเมืองภายใน
เสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน ประเทศที่มีความเข้มแข็งทางการเมืองสามารถควบคุมทรัพยากรภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายในที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ
การปกครองที่มั่นคง ระบบการเมืองที่เข้มแข็ง และการมีนโยบายที่มองไกลในเรื่องเศรษฐกิจ การพัฒนาเทคโนโลยี และการทหาร ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับการเป็นมหาอำนาจ
9. วัฒนธรรมและอิทธิพลทางอุดมการณ์
วัฒนธรรมและอุดมการณ์เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถเสริมสร้างความเป็นมหาอำนาจ วัฒนธรรมที่มีอิทธิพล เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ภาษา และเทคโนโลยีสื่อสาร ล้วนช่วยขยายอิทธิพลของประเทศในเวทีโลก ประเทศที่สามารถส่งออกวัฒนธรรมและค่านิยมของตนไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลกได้จะสามารถสร้างความน่าสนใจและความเชื่อถือในระดับนานาชาติ
อเมริกามีอิทธิพลทางวัฒนธรรมผ่านสื่อบันเทิง ฮอลลีวูด และเทคโนโลยีดิจิทัล ในขณะที่จีนพยายามเพิ่มบทบาททางวัฒนธรรมผ่านโครงการ Belt and Road Initiative รวมถึงการใช้ “Soft Power” ในการเผยแพร่วัฒนธรรมจีน
10. การบริหารทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน
การควบคุมและการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ทองคำ และโลหะหายาก เป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงและความเป็นมหาอำนาจในระยะยาว ประเทศที่สามารถควบคุมทรัพยากรเหล่านี้ได้ดีจะสามารถกำหนดราคาหรือสร้างพันธมิตรในเชิงยุทธศาสตร์กับประเทศอื่น ๆ ได้
11. ศักยภาพในด้านการศึกษาและวิจัย
การเป็นผู้นำในด้านการศึกษาและการวิจัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ประเทศที่มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกและสนับสนุนงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกได้
12. ความยืดหยุ่นและการปรับตัวในสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ
การเป็นมหาอำนาจระดับโลกต้องการความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ เช่น วิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศที่มีความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะสามารถรักษาความเป็นมหาอำนาจในระยะยาวได้
การเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกต้องอาศัยปัจจัยหลายประการนอกเหนือจากเทคโนโลยี การทหาร เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงความสามารถในการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองภายใน การส่งออกวัฒนธรรม การควบคุมทรัพยากรธรรมชาติ การศึกษาและนวัตกรรม และความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก
……………………………………………………………………………
** สงวนลิขสิทธิ์ไม่อนุญาตให้คัดลอกนำบทความไปใช้งานใดๆ รวมทั้งนำไปทำคลิปวีดีโอ**