โดย อัษฎางค์ ยมนาค
ไทยเสียโอกาสครั้งสำคัญเมื่อผู้นำยกเลิกงานประชุมระดับโลก
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดการที่จะเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 79 ในปี 2024 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม แทนที่เธอจะเดินทางไปร่วมด้วยตนเอง เธอได้มอบหมายให้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยขึ้นกล่าวในที่ประชุมแทน โดยเน้นประเด็นเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ความมั่นคง และการสนับสนุนระบบพหุภาคี  
สาเหตุที่แพทองธารไม่ได้เข้าร่วมการประชุมด้วยตนเองนั้นไม่ได้มีการระบุอย่างชัดเจนจากแหล่งข่าวหลัก แต่มีข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะการบริหารงานภายในประเทศหรือภารกิจอื่นที่ทำให้เธอไม่สามารถเดินทางไปได้ในเวลานั้น
ในมุมมองทางการเมืองระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก
1. ความสำคัญของเวทีการประชุมระดับโลก
การประชุมระดับโลกเช่นนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทยในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เสริมสร้างการทูต และการแสดงบทบาทของผู้นำในเวทีโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของประเทศที่กำลังพัฒนา การเข้าร่วมประชุมระดับโลกจะช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนจากนานาประเทศ รวมถึงการเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
หากนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำประเทศไม่เข้าร่วมการประชุมสำคัญเช่นนี้ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ในสายตานานาประเทศ การไม่เข้าร่วมอาจถูกมองว่าเป็นการละเลยบทบาทของประเทศในเวทีโลก และอาจทำให้ประเทศไทยพลาดโอกาสสำคัญในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการทูตกับประเทศต่างๆ
2. ผลกระทบต่อการเจรจาทางเศรษฐกิจและการลงทุน
ในมุมมองด้านเศรษฐศาสตร์ การเข้าร่วมการประชุมระดับสูงในเวทีโลกเป็นโอกาสที่สำคัญในการเปิดประตูการค้า การลงทุน และการสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำทางเศรษฐกิจโลกสามารถเจรจาเพื่อดึงดูดการลงทุนและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น
การที่ผู้นำของประเทศไม่เข้าร่วมอาจทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ และอาจทำให้ไทยดูไม่สำคัญในเวทีการเจรจาระหว่างประเทศ
3. ผลกระทบทางการเมืองภายในและภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ
การที่ผู้นำไม่ได้เข้าร่วมประชุมในเวทีสำคัญเช่นนี้ทำให้ประชาชนและสังคมตั้งคำถามถึงความสามารถในการบริหารของผู้นำ
การสร้างความเชื่อมั่นในผู้นำจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ในเวทีระหว่างประเทศ การไม่เข้าร่วมประชุมระดับโลกอาจถูกมองว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการแสดงบทบาทหรือไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาโลกที่ร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว
4. การบริหารจัดการเวลาและลำดับความสำคัญ
การที่ผู้นำไม่ได้เข้าร่วมการประชุมที่มีความสำคัญระดับโลก อาจสะท้อนถึงการจัดลำดับความสำคัญที่ผิดพลาดในด้านการบริหารเวลา หากในช่วงเวลานั้นไม่มีเหตุการณ์สำคัญหรือภารกิจเร่งด่วนในประเทศ
การขาดการเข้าร่วมประชุมที่สามารถเปิดโอกาสสำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งที่อาจจะสร้างความเสียหายต่อประเทศ
ประเทศไทยต้องการความร่วมมือจากนานาประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การไม่เข้าร่วมประชุมระดับโลกเช่นนี้เป็นการพลาดโอกาสสำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศควรเป็นสิ่งที่ผู้นำประเทศให้ความสำคัญสูงสุด
สุดท้ายท่านนายกเลยเลือกให้ประเทศชาติเสียโอกาส ดีกว่าตัวเองเสียหน้า หรือเปล่าครับ