โดย อัษฎางค์ ยมนาค
พิธีการและมารยาทไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำแต่ สะท้อนความมีวัฒนธรรมและการจัดระเบียบทางสังคม
Definition of Etiquette and Protocol
พิธีการ (Protocol) และ มารยาท (Etiquette) ความเท่าเทียม (Equality) และความเหลื่อมล้ำ (Inequality)
ความเท่าเทียมในสังคมเป็นเรื่องซับซ้อนและถูกถกเถียงในหลากหลายมุมมอง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเท่าเทียมสมบูรณ์ไม่เคยมีอยู่จริง เพราะในระบบสังคม การศึกษา และการทำงานมี ความเหลื่อมล้ำทางอำนาจและตำแหน่งอยู่เสมอ เช่น ตำแหน่งผู้นำ อาจารย์ หรือผู้จัดการ ซึ่งสะท้อนความเป็นจริงของโครงสร้างสังคมที่จัดระเบียบโดยมีลำดับชั้นของอำนาจและหน้าที่
อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องให้ทุกคนมีโอกาสและสิทธิเท่าเทียมกันในการเข้าถึงทรัพยากร ความยุติธรรม และโอกาสในชีวิต เช่น การมีสิทธิในการเลือกงานที่ดี การเข้าถึงการศึกษา การได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นอคติจากเพศ ศาสนา หรือฐานะทางสังคม ก็ถูกบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญของประเทศ
ส่วนเรื่อง ”มารยาทในสังคม“ ก็สะท้อนความมีวัฒนธรรมและการจัดระเบียบทางสังคม มารยาทอาจกำหนดลำดับชั้นในบางสถานการณ์ เช่น การให้ความเคารพต่อผู้สูงอายุหรือผู้มีตำแหน่งสูงกว่า แต่ไม่ใช่การบ่งบอกถึงความเหลื่อมล้ำทางคุณค่าในตัวบุคคล
“มารยาทและพิธีการ“ ไม่ใช่เรื่องการความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เท่าเทียม แต่เป็นวัฒนธรรมหรือจารีตประเพณีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล“
นอกจากนี้
โครงสร้างลำดับชั้นก็เป็นเรื่องการจัดระเบียบในสังคม โครงสร้างที่มีลำดับชั้น เช่น ผู้นำ ผู้บริหาร หรือตำแหน่งอื่น ๆ ที่สูงกว่าหรือมีหน้าที่แตกต่าง เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการระบบและองค์กรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เว้นแม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์
เรื่องของโครงสร้างลำดับชั้นก็เป็นเรื่องการจัดระเบียบในสังคมไม่ได้มีอยู่เฉพาะในสังคมไทยเท่านั้น แต่มีอยู่ในทุกสังคมในระดับสากล
ขอยกตัวอย่าง พิธีการและมารยาทสำหรับกิจการในประเทศและระหว่างประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในการทูตและการติดต่อระหว่างประเทศ เนื่องจากช่วยให้มีการประสานงานที่ราบรื่น โดยมีหลักการของความสุภาพและเคารพในลำดับขั้น
Etiquette (มารยาท):
เป็นชุดของกฎที่ใช้ควบคุมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หรือการทูต โดยกฎเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือธรรมเนียมของประเทศต่าง ๆ รวมถึงการใช้อย่างเข้มงวดในศาลทหาร การแพทย์ และอาชีพอื่น ๆ มารยาทมีบทบาทในการรักษาลำดับชั้นทางสังคมและป้องกันความขัดแย้งในสังคม
พิธีการ (Protocol)
ที่เน้นการยอมรับลำดับชั้นทางสังคม หมายถึง การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และมาตรฐานที่ชัดเจนในเรื่องของลำดับขั้นและตำแหน่งทางสังคม โดยเฉพาะในวงการการทูตและการประชุมระหว่างประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติต่อบุคคลต่าง ๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมกับสถานะหรือตำแหน่งของพวกเขา การจัดลำดับชั้นนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากสะท้อนถึงการให้เกียรติและเคารพในตำแหน่งทางสังคม การเมือง หรือราชการ
พิธีการ มักถูกอธิบายว่าเป็นชุดของกฎเกณฑ์ทางมารยาทระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยให้ประเทศและผู้คนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น กฎพิธีการจะยึดหลักความมีอารยธรรม และเน้นการยอมรับลำดับชั้นทางสังคม
พิธีการเน้นการยอมรับลำดับชั้นทางสังคม
ในกรณีการเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์หรือสมาชิกราชวงศ์นั้นเป็นเรื่องที่ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากการแสดงออกต่าง ๆ ต้องเคารพในลำดับชั้นและตำแหน่งของพระมหากษัตริย์หรือราชวงศ์อย่างเคร่งครัด พิธีการนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการให้เกียรติและเคารพต่อบุคคลที่มีสถานะสูงสุดในสังคม รายละเอียดเกี่ยวกับพิธีการเหล่านี้มีดังนี้:
การเข้าเฝ้า (Audience)
การเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์หรือสมาชิกราชวงศ์นั้น ต้องมีการปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น
การคำนับ การยืนและนั่ง การใช้ภาษาและคำราชาศัพท์ การแต่งกาย
การแต่งกายในการเข้าเฝ้าจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดและสมเกียรติตามสถานะของพระมหากษัตริย์ ผู้เข้าเฝ้ามักต้องสวมใส่ชุดที่เป็นทางการและเหมาะสมกับโอกาส
การปฏิบัติเหล่านี้ถือเป็นพิธีการที่เคร่งครัด เพื่อแสดงถึงการยอมรับลำดับชั้นทางสังคมอย่างชัดเจนและการให้เกียรติพระมหากษัตริย์หรือสมาชิกราชวงศ์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำคัญสูงสุดของประเทศ
กรณีที่มีบุคคลหรือกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ต่อขนบธรรมเนียมการให้ความเคารพต่อพระมหากษัตริย์หรือสมาชิกราชวงศ์ โดยอ้างถึงหลักการของความเท่าเทียม เป็นประเด็นที่ซับซ้อนและมักจะเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองที่ลึกซึ้ง ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นสองมุมมองหลักคือมุมมองทางวัฒนธรรมและมุมมองทางความเท่าเทียมกัน
การโต้แย้งเรื่องความเท่าเทียม:
กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเคารพในลำดับชั้นทางสังคมอาจใช้หลักการความเท่าเทียมในการแสดงออก โดยมองว่าไม่ควรมีบุคคลใดได้รับการปฏิบัติที่ต่างกันเพียงเพราะสถานะทางสังคม พวกเขาอาจมองว่าทุกคนควรมีสิทธิเท่าเทียมกันในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกหรือการรับการปฏิบัติ พวกเขาอาจโต้แย้งว่าพิธีการที่แสดงถึงลำดับชั้นทางสังคมนั้นไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและความเท่าเทียม
มุมมองทางวัฒนธรรมและการเคารพลำดับชั้นเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี
สังคมที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์มักจะยึดถือวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมเป็นสิ่งสำคัญ การให้ความเคารพต่อพระมหากษัตริย์หรือราชวงศ์สะท้อนถึงการยอมรับในบทบาทของในฐานะที่เป็นศูนย์รวมแห่งความสามัคคีและเสถียรภาพของชาติ การที่ผู้คนเคารพในลำดับชั้นนั้นไม่ได้แปลว่าพวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม แต่เป็นการให้เกียรติต่อบุคคลที่ถือสถานะที่มีความหมายทางวัฒนธรรมและสัญลักษณ์ของรัฐ
”พิธีการที่เน้นการยอมรับลำดับชั้น“ ยังคงมีอยู่ในกิจการภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพราะ “เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงโครงสร้างทางสังคม วัฒนธรรม และการเมืองที่มีรากลึกในประวัติศาสตร์และการปกครองของแต่ละประเทศ“ พิธีการเหล่านี้มีบทบาทหลายประการที่ยังคงมีความสำคัญและจำเป็นในหลายบริบท ดังนี้:
1. การรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี:
• ในหลายสังคม พิธีการที่เน้นลำดับชั้น เป็นส่วนสำคัญในการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เช่น ในประเทศที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่นหรือไทย การยอมรับลำดับชั้นและพิธีการในการให้ความเคารพราชวงศ์เป็นการสะท้อนถึงความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีมานับศตวรรษ พิธีการเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีในสังคมและช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าใจถึงรากฐานของชาติ
• นอกจากนี้ การรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีผ่านพิธีการยังเป็นการแสดงออกถึงความเคารพในลำดับชั้นทางสังคม ซึ่งช่วยรักษาความสมดุลระหว่างการเปลี่ยนแปลงและการคงไว้ซึ่งสิ่งที่ถือว่ามีคุณค่าในสังคม
2. การแสดงความเคารพในลำดับชั้นของอำนาจ:
• พิธีการที่เน้นการยอมรับลำดับชั้นเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาความมั่นคงของโครงสร้างทางการเมืองและสังคม เช่น การปฏิบัติต่อผู้นำประเทศหรือบุคคลสำคัญทางการเมืองและการทูตต้องมีการปฏิบัติตามพิธีการที่ชัดเจนเพื่อแสดงถึงความเคารพต่ออำนาจและหน้าที่ของบุคคลเหล่านั้น
• ในบริบทระหว่างประเทศ พิธีการเหล่านี้มีบทบาทในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การให้ความเคารพในลำดับชั้นในการประชุมระหว่างประเทศหรือพิธีการทางการทูตสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่มีระดับความสำคัญต่างกัน และช่วยหลีกเลี่ยงความขัดแย้งหรือความผิดพลาดในการปฏิบัติ
3. การสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม:
• พิธีการที่เน้นลำดับชั้นช่วยสร้าง เสถียรภาพในสังคม โดยรักษาความเคารพต่ออำนาจของสถาบันและบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในโครงสร้างการปกครอง เช่น สถาบันพระมหากษัตริย์หรือผู้นำทางการเมือง การให้ความเคารพในลำดับชั้นสามารถช่วยให้สังคมรู้สึกถึงความมั่นคงและความต่อเนื่องของอำนาจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาเสถียรภาพในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือสังคมอย่างรวดเร็ว
• การปฏิบัติตามพิธีการเหล่านี้ยังช่วยให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ที่มีระเบียบระหว่างกลุ่มคนที่มีสถานะและบทบาททางสังคมต่างกัน ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากความเข้าใจผิดหรือการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม
4. การแสดงออกถึงการยอมรับและความร่วมมือระหว่างประเทศ:
• ในการประชุมระหว่างประเทศ พิธีการที่เน้นการยอมรับลำดับชั้นมีบทบาทสำคัญในการสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศต่าง ๆ การจัดลำดับชั้นในการปฏิบัติ เช่น การให้เกียรติผู้นำประเทศ หรือการเรียงลำดับความสำคัญของการเจรจา แสดงถึงการให้เกียรติและการยอมรับซึ่งกันและกันในระดับนานาชาติ พิธีการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ การทูต ที่ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือระหว่างรัฐ
• ในหลายกรณี พิธีการที่เน้นลำดับชั้นช่วยให้การเจรจาทางการทูตดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยช่วยให้คู่เจรจารู้จักบทบาทและสถานะของกันและกันอย่างชัดเจน
5. การสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติต่อบุคคลสำคัญ:
• การรักษาลำดับชั้นในพิธีการเป็นการสร้าง มาตรฐาน ที่ชัดเจนในการปฏิบัติต่อบุคคลสำคัญ เช่น พระมหากษัตริย์ ผู้นำประเทศ นักการทูต หรือบุคคลที่มีอิทธิพลในสังคม พิธีการเหล่านี้ช่วยกำหนดรูปแบบที่เป็นที่ยอมรับในการต้อนรับ การเจรจา หรือการประชุม ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานทางการทูตและการปฏิบัติในระดับสากล
• พิธีการเหล่านี้ยังมีบทบาทในการป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม การละเมิดพิธีการอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างประเทศ ดังนั้นการรักษาพิธีการจึงมีความสำคัญในการสร้างความเข้าใจและความเคารพซึ่งกันและกัน
พิธีการที่เน้นการยอมรับลำดับชั้นในสังคมยังคงมีบทบาทสำคัญเพราะช่วยรักษาโครงสร้างทางวัฒนธรรมและสังคมให้มั่นคง นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มคนที่มีบทบาทและสถานะต่างกัน การรักษาขนบธรรมเนียมเหล่านี้จึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของวัฒนธรรม แต่ยังเป็นเรื่องของการสร้างเสถียรภาพ ความมั่นคง และความสัมพันธ์ที่ดีในระดับภายในประเทศและระหว่างประเทศ
“เมื่อกล่าวถึงมารยาทและพิธีการในกิจกรรมภายในประเทศแล้ว ก็ขอเพิ่มเติมมารยาทและพิธีการในกิจกรรมระหว่างประเทศไว้ประดับความรู้ และยังสามารถแสดงให้เห็นว่า “มารยาทและพิธีการ“ ไม่ใช่เรื่องการความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เท่าเทียม แต่เป็นวัฒนธรรมหรือจารีตประเพณีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล“
หลักการของความสุภาพและการเคารพในลำดับขั้น ในพิธีการและมารยาทระหว่างประเทศ เป็นหัวใจสำคัญในการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน
ซึ่งหลักการนี้ครอบคลุมทั้งการทูต การเจรจา และการติดต่อในระดับทางการ หลักการสำคัญสามารถอธิบายได้ดังนี้:
1. ความสุภาพและอารยธรรม (Civility and Courtesy)
• การแสดงความสุภาพ เป็นรากฐานสำคัญของพิธีการระหว่างประเทศ การใช้คำพูด การทักทาย การแสดงออกทางกาย ต้องเป็นไปอย่างสุภาพและเหมาะสม เพื่อให้บรรยากาศการเจรจาเป็นไปในทางบวกและสร้างความไว้วางใจระหว่างคู่เจรจา
• อารยธรรมและการเคารพในวัฒนธรรม: การปฏิบัติตามพิธีการที่สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละประเทศถือเป็นการแสดงออกถึงความเคารพในวัฒนธรรมและลำดับขั้นของประเทศนั้น ๆ การให้เกียรติในรูปแบบที่เหมาะสมตามบริบทและวัฒนธรรมถือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความเข้าใจผิดหรือความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
2. การเคารพในลำดับขั้น (Respect for Hierarchy)
• การยอมรับลำดับขั้น: ผู้นำประเทศหรือผู้แทนรัฐบาลที่มีสถานะสูงกว่ามักจะได้รับการต้อนรับและปฏิบัติเป็นพิเศษตามมาตรฐานพิธีการ เช่น การให้ผู้นำประเทศได้พูดหรือแสดงความเห็นก่อนในการประชุม หรือการจัดที่นั่งในงานเลี้ยงอย่างเป็นระเบียบตามลำดับตำแหน่ง การกระทำเหล่านี้เป็นการแสดงความเคารพในตำแหน่งและสถานะของแต่ละบุคคล
3. การใช้ภาษาและคำพูดอย่างเหมาะสม (Diplomatic Language)
• การใช้ ภาษา เป็นหลักการสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดี การพูดจาด้วยคำพูดที่สุภาพและเหมาะสมเป็นการแสดงออกถึงการให้เกียรติอีกฝ่าย
4. การแต่งกายและการปฏิบัติตัว (Dress Code and Conduct)
• การแต่งกายในพิธีการระหว่างประเทศมักมี มาตรฐาน ที่ชัดเจน และการแต่งกายที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของประเทศที่เข้าร่วม การปฏิบัติตามมาตรฐานนี้แสดงถึงความเคารพในกฎเกณฑ์ของอีกฝ่าย
• การปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม: ในงานพิธีต่าง ๆ การยืน การนั่ง และการแสดงออกทางกาย ต้องมีความสุภาพและเหมาะสม
5. การแสดงความเคารพต่อประมุขแห่งรัฐและบุคคลสำคัญ (Respect for Heads of State and Dignitaries)
• ในการเจรจาทางการทูตหรือพิธีการที่เกี่ยวข้องกับ ประมุขแห่งรัฐ (Heads of State) หรือบุคคลสำคัญ การแสดงความเคารพในตำแหน่งและสถานะของบุคคลเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
• การปฏิบัติที่ ให้เกียรติอย่างสูงสุด จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น
6. ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Flexibility and Adaptability)
• แม้ว่าพิธีการและมารยาทระหว่างประเทศจะมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน แต่ ความยืดหยุ่น และ การปรับตัว ในสถานการณ์ต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
หลักการของความสุภาพและการเคารพในลำดับขั้น ในพิธีการและมารยาทระหว่างประเทศเป็นการแสดงออกถึงการให้เกียรติ ความเคารพในตำแหน่งและสถานะของบุคคลหรือประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดี การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และการใช้ภาษาที่สุภาพมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและสอดคล้องกับหลักการการทูตในระดับสากล
การที่ผู้คนเคารพในลำดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้นำทางการเมืองหรือผู้บริหารองค์กร ไม่ได้แปลว่าพวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม แต่เป็นการให้เกียรติต่อบุคคลที่ถือสถานะที่มีความหมายทางวัฒนธรรมและสัญลักษณ์ของรัฐ
นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงการยอมรับในบทบาทของผู้นำจากสถาบันต่างๆ ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมแห่งความสามัคคีและเสถียรภาพขององค์กรหรือของชาติ