โดย อัษฎางค์ ยมนาค
ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูด
ผลกระทบต่อความมั่นคงและดุลอำนาจในอ่าวไทย
ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูดนอกจากปัญหาการเสียดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลแล้ว ปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่คนไม่ได้พูดถึงคือ ผลกระทบต่อความมั่นคงทางทหารและดุลอำนาจในอ่าวไทย
ซึ่งในที่สุดก็ย้อนกลับไปส่งผลถึงดุลอำนาจในการเจรจาทางการการเมือง การทูต การค้า และการทหารระหว่างไทยกับเขมร ที่จะทำให้ไทยเสียเปรียบหรือมีความยากขึ้นในการต่อรองทุกเรื่อง
ดุลอำนาจทางการทหารในอ่าวไทยเปลี่ยนแปลง
กัมพูชาเตรียมที่จะได้รับการสนับสนุนจากจีน ซึ่งจะส่งมอบเรือคอร์เวตจำนวน 2 ลำในอนาคตอันใกล้ การเพิ่มอาวุธยุทโธปกรณ์ครั้งนี้จะส่งผลให้ดุลอำนาจทางการทหารในอ่าวไทยมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ไทยยังคงพึ่งพาเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นเรือฟริเกตที่มีสมรรถนะสูงเพียงลำเดียวในกองทัพเรือ แต่เรือรบลำอื่น ๆ กำลังจะปลดระวางเนื่องจากอายุการใช้งานเกินกว่า 30 ปี ซึ่งอาจส่งผลให้ความสามารถในการป้องปรามและตอบโต้ทางทหารของไทยลดลงอย่างมาก
ความเสียเปรียบเชิงการเมืองและการทหาร
การเสริมกำลังทางทะเลของกัมพูชาในขณะที่ไทยยังไม่มีการจัดหาอาวุธใหม่ ส่งผลให้ไทยมีความเสี่ยงที่จะเสียเปรียบเชิงการทหาร และลดความสามารถในการป้องกันตนเองจากการรุกรานหรือแทรกแซงทางทะเล การที่ไทยขาดความพร้อมด้านยุทโธปกรณ์ยังทำให้สถานการณ์ทางการทูตและการเจรจาทางการเมืองระหว่างไทยและกัมพูชามีความซับซ้อนและท้าทายมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการรักษาสมดุลและเสถียรภาพในภูมิภาคอ่าวไทย
”เรือดำน้ำ“ คือเครื่องมือสำคัญในการป้องกันน่านน้ำ
หากไทยไม่สามารถจัดหาเรือฟริเกตใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้ สิ่งที่อาจทดแทนได้คือ เรือดำน้ำ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการสร้าง เรือดำน้ำมีความสำคัญในการป้องปรามและสร้างความ ยำเกรงต่อข้าศึก เนื่องจากเรือดำน้ำสามารถปฏิบัติการได้อย่างลับ ๆ เคลื่อนไหวได้ยากต่อการตรวจจับ และสามารถโจมตีเรือผิวน้ำหรือเป้าหมายใต้น้ำของข้าศึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรือดำน้ำยังเป็นเครื่องมือในการป้องกันน่านน้ำที่สามารถเสริมสร้างขีดความสามารถของไทยในการควบคุมน่านน้ำและป้องกันการล่วงล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่กัมพูชาได้รับการสนับสนุนทางทหารจากจีน
ความยำเกรงทางทหารและผลกระทบต่อการทูตและการค้า
การที่ไทยมีเรือดำน้ำจะช่วยสร้างความยำเกรงทางทหาร ต่อประเทศเพื่อนบ้านและคู่แข่งในภูมิภาค ทำให้ข้าศึกต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการตัดสินใจดำเนินกิจกรรมทางทะเลที่อาจส่งผลกระทบต่อไทย การมีเรือดำน้ำยังเสริมสร้าง อำนาจต่อรองทางการเมือง ช่วยให้ไทยมีบทบาทที่แข็งแกร่งขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นความมั่นคงและเขตแดนทางทะเล การมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยทำให้ไทยสามารถปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลของตนเอง และเพิ่มความมั่นใจในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน
การรักษาความมั่นคงในน่านน้ำในทางเศรษฐกิจ
ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการส่งออกทางทะเล การมีเรือดำน้ำช่วยลดความเสี่ยงจากการรุกล้ำและทำให้เส้นทางการเดินเรือมีความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในระยะยาว การมีขีดความสามารถในการป้องกันน่านน้ำที่มั่นคงจะส่งผลให้ประเทศคู่ค้าของไทยมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจกับไทย
ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูดไม่ใช่เพียงเรื่องการแย่งชิงดินแดนและทรัพยากรทางทะเล แต่ยังเกี่ยวข้องกับ ความมั่นคงทางทหาร และ ดุลอำนาจในอ่าวไทย หากไทยไม่สามารถรักษาสมดุลทางทหารได้ ไทยอาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการเจรจาทางการเมือง การค้า และการทูตกับกัมพูชาที่ซับซ้อนมากขึ้น การเสริมสร้างกำลังรบผ่านการจัดหาเรือดำน้ำหรือเรือฟริเกตเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพทางทะเลและผลประโยชน์ของไทยในภูมิภาค