โดนัลด์ ทรัมป์ 2 หยุดส่งทหารแต่ไม่หยุดรบ
โดย #อัษฎางค์ยมนาค
นักวิเคราะห์มองว่าการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ มีนโยบายที่จะหยุดส่งทหารอเมริกันไปรบในต่างประเทศและลดการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งระดับโลก อาจมีผลกระทบต่อสงครามและสถานการณ์ในหลายภูมิภาค
สงครามในตะวันออกกลาง และสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์
1. ลดการสนับสนุนพันธมิตร
หากทรัมป์ลดบทบาทของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางลงและลดการส่งทหารเข้าพื้นที่ สหรัฐฯ อาจลดการสนับสนุนทางทหารและการเงินให้กับพันธมิตรหลักอย่างอิสราเอล ซึ่งอาจส่งผลให้อิสราเอลต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้นในการเผชิญกับความท้าทายจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มก่อการร้าย เช่น ฮามาสและฮิซบอลเลาะห์
2. ความเสี่ยงของความไม่แน่นอน
การถอนบทบาทของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางอาจสร้างความไม่แน่นอนในภูมิภาค เนื่องจากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในความสมดุลของอำนาจระหว่างประเทศต่าง ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดระหว่างประเทศ เช่น อิหร่าน ซึ่งเป็นคู่แข่งของอิสราเอลและพันธมิตรของสหรัฐฯ การลดบทบาทของสหรัฐฯ อาจทำให้ประเทศเหล่านี้มีความกล้าที่จะเพิ่มบทบาทของตนในภูมิภาคมากขึ้น
3. เน้นการทูตและการเจรจา
นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าทรัมป์อาจเน้นใช้การทูตและการเจรจาแทนการใช้กำลังทหาร เพื่อให้เกิดความสงบและความร่วมมือในภูมิภาค แต่การเจรจาโดยไม่มีการสนับสนุนทางทหารอาจทำให้พันธมิตรในตะวันออกกลางรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับการคุ้มครองจากสหรัฐฯ อย่างที่เคยเป็นมา
สงครามในยูเครน
1. ลดการสนับสนุนทางการทหารต่อยูเครน
ทรัมป์อาจมีแนวโน้มที่จะลดการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย โดยอาจเห็นว่าเป็นการเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นสำหรับสหรัฐฯ และต้องการให้ประเทศในยุโรปรับผิดชอบด้านความมั่นคงของตนเองมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ยูเครนต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากยุโรปหรือประเทศอื่นมากขึ้น
2. ความตึงเครียดกับรัสเซีย
นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการลดบทบาทของสหรัฐฯ อาจทำให้รัสเซียมีอิสระมากขึ้นในการดำเนินการในยูเครนและพื้นที่ใกล้เคียง ทรัมป์เคยมีท่าทีที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปสู่ความกังวลในหมู่พันธมิตรยุโรปตะวันออกที่เกรงว่ารัสเซียจะมีความกล้าในการขยายอิทธิพลของตน
3. ผลกระทบต่อ NATO และพันธมิตรยุโรป
ทรัมป์อาจเรียกร้องให้ NATO และยุโรปเพิ่มการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนยูเครนและรักษาความมั่นคงในยุโรปมากขึ้น การลดบทบาทของสหรัฐฯ ใน NATO อาจทำให้พันธมิตรยุโรปต้องทบทวนนโยบายและการลงทุนในด้านการทหารเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากรัสเซีย
การที่ทรัมป์มีนโยบายลดการส่งทหารและลดบทบาทของสหรัฐฯ ในความขัดแย้งต่างประเทศ อาจทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางและยูเครนมีความตึงเครียดและซับซ้อนมากขึ้น พันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเหล่านี้อาจรู้สึกถึงการขาดการสนับสนุนและความมั่นใจในการเผชิญกับภัยคุกคาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้สหรัฐฯ มีภาระทางทหารลดลงและสามารถมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนในภูมิภาคที่ต้องการการสนับสนุนจากสหรัฐฯอำนาจในระดับโลก
#TheNewGeopoliticalArena