สิทธิเสรีภาพเป็นของใคร?
ตอนที่ 1: ทำไมจีนเป็น “ตัวร้าย” และสหรัฐฯ เป็น “พระเอก”?
#อัษฎางค์ยมนาค มาวิเคราะห์หาคำตอบกับคำถามที่ว่า
• ทำไมจีนเป็น “ตัวร้าย” และสหรัฐฯ เป็น “พระเอก”?
• ทำไมการแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นของสหรัฐถูกมองว่าถูกต้อง?
• ถ้าจีนแทรกแซงกิจการภายในของสหรัฐทำไมถูกมองว่าผิด?
ศาลฮ่องกงได้ตัดสินจำคุกผู้นำฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยจำนวนหลายสิบคนเป็นเวลาหลายปีในข้อหาโค่นล้มอำนาจรัฐ หลังการพิจารณาคดีที่เป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Law)
เบนนี ไท (Benny Tai) อายุ 60 ปี และโจชัว หว่อง (Joshua Wong) อายุ 28 ปี เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เรียกว่า “ฮ่องกง 47” ซึ่งประกอบด้วยนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองที่มีส่วนร่วมในแผนการเลือกตั้งผู้สมัครฝ่ายค้านสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น
ไทได้รับโทษจำคุก 10 ปี ในขณะที่หว่องถูกตัดสินจำคุกมากกว่า 4 ปี โดยรวมแล้วมีผู้ต้องหาทั้งหมด 45 คนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาสมคบคิดเพื่อโค่นล้มอำนาจรัฐ สองคนในจำนวนนี้ได้รับการพ้นผิดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นี่ถือเป็นการพิจารณาคดีครั้งใหญ่ที่สุดภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (NSL) ซึ่งจีนได้บังคับใช้ในฮ่องกงไม่นานหลังเหตุการณ์ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในปี 2019
คำตัดสินนี้ถูกสื่อตะวันตกตีข่าวถึงการคุกคามและลิดรอนสิทธิมนุษยชนและความเป็นเสรีประชาธิปไตย
คำถาม
โจชัว หว่อง คือนักประชาธิปไตยตัวจริงหรือจอมปลอม เป็นนักประชาธิปไตยหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงที่หวังโค่นล้มอำนาจรัฐ?
• ในมุมมองว่าเป็นนักประชาธิปไตยตัวจริง
1. โจชัว หว่อง เป็นผู้นำเยาวชนในขบวนการสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง เพื่อเรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งอย่างเสรีและการปกป้องเสรีภาพที่ฮ่องกงเคยมีภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
2. เขาได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนมองว่าเขาเป็นตัวแทนของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพในฮ่องกง
• มุมมองว่าเป็นประชาธิปไตยจอมปลอมหรือเป็นภัยต่อความมั่นคง
1. การถูกกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือของต่างชาติ: ฝ่ายรัฐบาลจีนมองว่าขบวนการที่หว่องมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นความพยายามของประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐฯ ในการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
2. การละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ: การกระทำบางอย่างของเขา เช่น การเรียกร้องให้ประชาคมโลกแทรกแซงฮ่องกง อาจถูกมองว่าเป็นการคุกคามต่ออำนาจรัฐและความมั่นคง
3. มุมมองเชิงสังคมบางส่วน: มีคนในฮ่องกงที่มองว่าแนวทางการประท้วงที่รุนแรงหรือยืดเยื้อก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความสงบสุขของเมือง
ข้อพิจารณา
• การมองว่าโจชัว หว่องเป็น “นักประชาธิปไตยตัวจริง” หรือ “ภัยต่อความมั่นคง” ขึ้นอยู่กับกรอบความคิดของผู้ที่พิจารณา
• ความขัดแย้งในกรณีนี้สะท้อนถึงปัญหาระหว่างการเรียกร้องประชาธิปไตยกับการรักษาอำนาจของรัฐ ซึ่งเป็นประเด็นที่ซับซ้อนในทุกสังคม
คำถาม
สิ่งที่โจชัว หว่องทำสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยหรือไม่?
คำตอบ
สิ่งที่โจชัว หว่องทำมีความสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยในแง่การเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ แต่ในบางด้าน เช่น การเรียกร้องให้มีการแทรกแซงจากต่างชาติ คือการละเมิดความสมดุลของประชาธิปไตยในเชิงอธิปไตยของรัฐ
คำถาม
การเรียกร้องเสรีภาพของเขาสร้างผลกระทบอย่างไรต่อสังคมโดยรวม?
คำตอบ
ผลกระทบที่เขาสร้างขึ้นมีทั้งด้านบวกและลบ โดยด้านบวกช่วยกระตุ้นการตื่นตัวทางการเมืองและสร้างแรงบันดาลใจ แต่ด้านลบก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความสงบของฮ่องกง และยังทำให้รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้นในระยะยาว
ในขณะที่….
ชาติมหาอำนาจตะวันตกที่นำโดยสหรัฐอเมริกา สนับสนุน โจชัว หว่องและกลุ่มผู้ประท้วงอย่างออกนอกหน้า ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง
คำถาม
การกระทำดังกล่าวของประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐฯ ถือเป็นความพยายามของในการแทรกแซงกิจการภายในของจีนผ่านฮ่องกง อย่างที่ศาลจีนตัดสินหรือไม่?
คำตอบ
จริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับมุมมอง
• หากพิจารณาจากมุมมองของจีน การสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยในฮ่องกงโดยประเทศตะวันตกอาจถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน
• ในทางกลับกัน ประเทศตะวันตกมักมองว่าการสนับสนุนดังกล่าวเป็นการปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตย ซึ่งเป็นคุณค่าที่พวกเขาสนับสนุนในระดับสากล
• ดังนั้น การแทรกแซงหรือไม่แทรกแซงจึงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับกรอบการตีความและผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายมากกว่าข้อเท็จจริงที่
คำถาม
ถ้าจีนทำแบบเดียวกับสหรัฐ เช่น สนับสนุนการเคลื่อนไหวของผู้นิยมสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ในการเรียกร้อง ระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ในสหรัฐ เพื่อเป็นทางเลือกของประชาชน จะถูกมองว่า จีนพยายามแทรกแซงกิจการภายในของสหรัฐหรือไม่?
คำตอบ
หากจีนดำเนินการในลักษณะที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้นิยมสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ในสหรัฐฯ เช่น การสนับสนุนทางการเงินหรือการให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ เพื่อส่งเสริมแนวคิดสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ในฐานะทางเลือกของประชาชนในสหรัฐฯ ก็น่าจะถูกมองว่าเป็น การแทรกแซงกิจการภายในของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ อาจขัดต่อกฎหมายของสหรัฐฯ ที่ควบคุมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติ เช่น กฎหมาย Foreign Agents Registration Act (FARA)
สุดท้าย สหรัฐฯ อาจมองว่าการกระทำดังกล่าวของจีนเป็นภัยต่อความมั่นคงภายใน และจะตอบโต้ด้วยมาตรการทางการทูต เศรษฐกิจ หรือการเพิ่มแรงกดดันต่อจีนในเวทีโลก
ดังนั้น
หากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในฮ่องกง การสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อขบวนการประชาธิปไตยในฮ่องกงถูกจีนมองว่าเป็นการแทรกแซง ดังนั้น หากจีนทำแบบเดียวกันในสหรัฐฯ เช่น การสนับสนุนกลุ่มคอมมิวนิสต์ อาจเป็นการตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนการใช้วิธีการเดียวกัน
สิ่งนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของภูมิรัฐศาสตร์ที่การสนับสนุนอุดมการณ์หรือกลุ่มการเมืองในประเทศอื่นมักถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยและความมั่นคงในระดับรัฐเสมอ
คำถาม
ทำไมจีนคอมมิวนิสต์ถูกมองว่าเป็นตัวร้าย และอเมริกาเป็นพระเอก ในเมื่อระบบการเมืองและเศรษฐกิจของจีน สามารถพัฒนาประเทศให้พ้นจากความยากจน และทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีได้ ?
คำตอบ
การที่ จีนคอมมิวนิสต์ ถูกมองว่าเป็น “ตัวร้าย” และ สหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็น “พระเอก” นั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนถึงความซับซ้อนของประวัติศาสตร์ การเมืองโลก และการสื่อสารในยุคปัจจุบัน โดยสามารถวิเคราะห์ได้จากหลายมุมมอง ดังนี้:
1. บริบททางประวัติศาสตร์
• ยุคสงครามเย็น (Cold War)
ในช่วงสงครามเย็น อุดมการณ์คอมมิวนิสต์ถูกมองว่าเป็นศัตรูหลักของโลกเสรีนิยมประชาธิปไตยที่สหรัฐฯ เป็นผู้นำ ประเทศตะวันตกจึงมองว่าระบบคอมมิวนิสต์ เช่น ของจีนและโซเวียต เป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน
• การโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda)
สหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกใช้สื่อและวาทกรรมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าประเทศคอมมิวนิสต์เป็นเผด็จการ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และล้มเหลวในการดูแลประชาชน ในขณะที่ตนเองถูกยกย่องว่าเป็นต้นแบบของเสรีภาพและความก้าวหน้า
2. บริบทปัจจุบัน
• สหรัฐฯ มักวิจารณ์จีนในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น กรณีชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในซินเจียง หรือการปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง
• ในทางกลับกัน จีนชี้ว่าสิทธิมนุษยชนของตนเน้นที่ “สิทธิในการพัฒนา” และ “สิทธิทางเศรษฐกิจ” โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
• การแสดงบทบาทบนเวทีโลก
สหรัฐฯ วางตัวเป็น “ตำรวจโลก” ที่อ้างอิงเสรีภาพและประชาธิปไตย ขณะที่จีนมุ่งเน้นการลงทุนและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนา
3. ความสำเร็จของจีนที่ไม่สามารถมองข้ามได้
• การยกระดับคุณภาพชีวิต
จีนได้พาประชากรมากกว่า 800 ล้านคน หลุดพ้นจากความยากจนในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา และปัจจุบันกลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก
• การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
จีนแสดงให้เห็นว่าระบบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบตะวันตกก็สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจได้หากมีการบริหารจัดการที่ดี
4. ทำไมภาพลักษณ์ของจีนยังถูกมองว่าเป็น “ตัวร้าย”?
• สื่อและการโฆษณาชวนเชื่อ
โลกตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีอิทธิพลต่อการสื่อสารระดับโลกและใช้สื่อนำเสนอภาพลักษณ์ของจีนในเชิงลบ
• ความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์
การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และอิทธิพลทางการเมือง ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามลดความชอบธรรมของอีกฝ่าย
5. สหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็น “พระเอก” เพราะอะไร?
• การส่งเสริมประชาธิปไตย
สหรัฐฯ โฆษณาตนเองว่าเป็น “แสงสว่างแห่งเสรีภาพ” และสนับสนุนประชาธิปไตยในหลายประเทศ
• บทบาทในสงครามโลกและสงครามเย็น
สหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือโลกตะวันตกในสงครามโลกครั้งที่ 2 และการยับยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์ในสงครามเย็น ทำให้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำโลกเสรี
6. มุมมองที่สมดุล
• จีน: ประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ระบบการปกครองที่เข้มงวดและการไม่เปิดกว้างด้านสิทธิมนุษยชนทำให้ถูกวิจารณ์อย่างหนัก
• สหรัฐฯ: แม้จะเป็นผู้นำประชาธิปไตย แต่ก็มีปัญหาภายใน เช่น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการแทรกแซงกิจการในต่างประเทศที่บางครั้งสร้างความเสียหาย
ข้อสรุป
การมองจีนว่าเป็น “ตัวร้าย” และสหรัฐฯ เป็น “พระเอก” เป็นเรื่องของมุมมองที่ถูกสร้างผ่านประวัติศาสตร์ อุดมการณ์ และการสื่อสารและการโฆษณาชวนเชื่อ
ดังนั้น การตัดสินว่าฝ่ายใด “ดี” หรือ “ร้าย” ควรพิจารณาจากข้อเท็จจริงหลายด้าน รวมถึงผลกระทบต่อประชาชนและโลกโดยรวม
ไทยยังเป็นตัวร้ายแบบเดียวกับจีนในสายตาอเมริกา!
ไทยเองก็โดนแทรกแซงทางการเมืองโดยสหรัฐอเมริกา ผ่านข้ออ้างการส่งเสริมประชาธิปไตย ด้วยการสนับสนุนพรรคและพวกล้มเจ้าที่ต้องการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างปิดบังซ่อนเร้น ด้วยข้ออ้างสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย
สังเกตได้จากพรรคและพวกล้มเจ้าได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาผ่านองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนด้วยข้ออ้างการสนับสนุนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
คำถาม
สถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย แต่ทำไมยังถูกจัดเป็นตัวร้ายแบบเดียวกับจีนในสายตาอเมริกา
คำตอบ
จะเห็นได้ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรูปแบบการปกครอง แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจมากกว่า นั่นเอง
สหรัฐอเมริกาต้องการเป็นผู้จัดการระเบียงโลกให้เป็นไปตามที่สหรัฐอเมริกาต้องการ
คำถาม
สิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยคืออะไรกันแน่
ในเมื่อไทย จีนหรือประเทศใดๆ ไม่มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกสิ่งที่เหมาะกับชาติและประชาชนของตน แต่เป็นสิทธิเสรีภาพของสหรัฐอเมริกาเป็นผู้เลือกว่า ไทย จีนหรือประเทศใดๆ ต้องเป็นอย่างไรตามที่สหรัฐอเมริกากำหนด !
ดังนั้น
ถ้าสหรัฐฯ ประกาศตนเองว่าเป็น “แสงสว่างแห่งเสรีภาพ” และสนับสนุนประชาธิปไตย
เราจองใช้สิทธิและเสรีภาพในการเลือกรูปแบบการเมืองการปกครองและเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับประเทศชาติและประชาชนของเราได้หรือไม่?
ถ้าคำตอบคือ ไม่ได้ เพราะ…
“ระเบียบโลก” ที่หมายถึงโครงสร้างหรือระบบการจัดการด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคง เพื่อรักษาความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองในระดับโลก ประเทศต่าง ๆ จะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่สหรัฐอเมริกาและมหาอำนาจตะวันตกเป็นผู้กำหนดเท่านั้น
คำถามสุดท้ายคือ
แสงสว่างแห่งสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ที่หมายถึงสิทธิเสรีภาพในการเลือกสิ่งที่เหมาะกับตนเองหรือสิ่งที่ตนเองต้องการ คืออะไร?
สหรัฐอเมริกามักนำเสนอตนเองว่าเป็น “แสงสว่างแห่งเสรีภาพ” และเป็นผู้สนับสนุนประชาธิปไตย โดยได้ส่งเสริมอุดมการณ์เหล่านี้ในหลายภูมิภาคทั่วโลกมาหลายทศวรรษ
แต่คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นคือ เสรีภาพและประชาธิปไตยมีความหมายอย่างไร หากประเทศอย่างไทย จีน หรือประเทศใด ๆ กลับไม่มีสิทธิที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนของตนเอง? เสรีภาพยังเป็นเสรีภาพอยู่หรือไม่ หากต้องเป็นไปตามความพึงพอใจของสหรัฐฯ หรือเป็นเพียงการบังคับให้ปฏิบัติตามระเบียบโลกที่กำหนดโดยพวกเขา?
เสรีภาพ ประชาธิปไตย และระเบียบโลก: ใครคือผู้ตัดสินใจที่แท้จริง?
The United States has long presented itself as the “beacon of freedom” and a champion of democracy, promoting these ideals in various regions of the world. This self-proclaimed role has shaped international politics for decades, with the U.S. actively exporting its vision of freedom and democracy to other nations.
Yet, this raises a fundamental question: what do freedom and democracy truly mean if nations like Thailand, China, or any other sovereign state are denied the freedom to choose what is best for their own people? Is it freedom if it must align with the preferences of the United States, or is it simply conformity to an imposed global order?
Freedom, Democracy, and the World Order: Whose Choice Is It Really?
โปรดติดตามตอนต่อไป
ตอนที่ 2
สิทธิเสรีภาพเป็นของสหรัฐอเมริกา Only หรือเป็นของเรา
#TheNewGeopoliticalArena #AtsadangBigQuestion #ThaiGeopoliticalShift